ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์และข่าวแจ้งสื่อมวลชน

ทันหุ้น - DOHOME ชี้รัฐสั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในกรุงเทพ และปริมณฑล กระทบยอดขายแค่ 1% เหตุมีแค่ 4 สาขาอยู่ในพื้นที่ปิดแคมป์ แถมปัจจุบันยังได้รับคำสั่งใหม่เข้ามาต่อเนื่อง แย้มผลงานไตรมาส 2/64 ดีกว่าไตรมาส1/64 ชู SSSG บวก 26% และยอดขายรวมโต 40%มองราคาเหล็กครึ่งปีหลังยังทรงตัวสูง หนุนมาร์จิ้นพุ่ง

นางสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME เปิดเผยว่า กรณีที่ภาครัฐมีคำสั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในกรุงเทพ และปริมณฑลนั้น มองว่ามีผลกระทบต่อยอดขายธุรกิจที่ค่อนข้างน้อยมาก เนื่องจากบริษัทสาขาในพื้นที่ดังกล่าวเพียง 4 สาขา ได้แก่ สาขาถนนพระราม 2 สาขาเพชรเกษม สาขารังสิต และสาขาบางบัวทอง เป็นต้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนที่ประมาณ 1% กว่าๆ ของยอดขายรวมเท่านั้นมีเปิดขายอยู่ 14 สาขา ในขณะที่สาขาอื่นๆ ในต่างจังหวัดยังมีการเปิดให้บริการได้ตามปกติ แม้จะมีคำสั่งล็อกดาวน์

*SSSGโตโดด

ปัจจุบันบริษัทยังคงได้รับคำสั่งซื้อใหม่ๆ จากกลุ่มลูกค้าผู้รับเหมาก่อสร้างเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงมองว่าคำสั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง อาจเพื่อเป็นการลดความหนาแน่นของที่พักคนงานและเพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระจายของไวรัสโควิด-19 แต่อย่างไรก็ดีหน้าไซด์งานก่อสร้างโครงการต่างๆ ยังคงมีคนงานก่อสร้างดำเนินการอยู่เพียงแต่ถูกจำกัดจำนวนคนงานภายในไซด์ลง อีกทั้งการลงทุนส่วนใหญ่ยังคงมีการเดินหน้าลงทุนต่อและไม่ได้หยุดแต่อย่างใด ปัจจุบันผู้รับเหมาที่สั่งซื้อสินค้าเราก็ยังไม่มีการชะลอรับของ บริษัทยังส่งสินค้าทุกหน่วยงานปกติ

ดังนั้นยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ทั้งนี้ SSSG ในไตรมาส 2/2564จะเติบโตดีต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2564จนถึงปัจจุบัน SSSG อยู่ที่ระดับ 25-26% จากไตรมาสแรกปีนี้ที่อยู่ที่ระดับราว 22.5%และมีรายได้จากการขายรวมเติบโตอยู่ที่มากกว่า 40%จากไตรมาสก่อนหน้าที่ราว 33-34%

ประกอบกับราคาเหล็กโลกที่คงทรงตัวอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้มาร์จิ้นดีขึ้น ซึ่งเป็นไปตามราคาต้นทุนทางวัตถุดิบเหล็กที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ราคาขายเหล็กในปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยที่ประมาณ 20-40% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน คาดว่าราคาเหล็กยังคงดีต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 2/2564และไตรมาส 3/2564 และมีแนวโน้มต่อเนื่องไปจนถึงปลายไตรมาส 4/2564 อีกด้วย อย่างไรก็ดีสินค้านอกเหนือสินค้าเหล็กเองก็ให้มาร์จิ้นดีเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้าแผนลงเปิด 2 สาขาไซส์ L ได้แก่ สาขาอมตะนคร ชลบุรี ในไตรมาส 3/2564 และสาขาในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในไตรมาส 4/2564จากในช่วงที่ผ่านมามีการเปิดสาขาแรกที่แหลมฉบัง เปิดไปแล้วช่วงเดือนมกราคม 2564 และสาขาที่ 2 ที่บ่อวิน ชลบุรี ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมาแล้ว

**โค้ง2กำไรพุ่ง

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุ คาดว่า SSSG ของ DOHOME ในไตรมาส 2/2564 จะอยู่ที่ประมาณเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน หลังจากที่สูงถึงประมาณ 50% ในเดือนเมษายน 2564 และอยู่ที่ 20% ในเดือนพฤษภาคม 2564 ซึ่ง SSSG ที่ดีมากในช่วงสองเดือนแรกของไตรมาสที่สองเป็นผลมาจาก 1) ฐานที่ต่ำเนื่องจากมีการปิดสาขาร้านชั่วคราว

2) อุปสงค์ที่แข็งแกร่งตามรายได้ภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (รายได้ภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 1%เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ในเดือนเมษายน 2564และราคาพืชผลทางการเกศตรยังอยู่ในระดับสูง และ 3) ราคาเหล็กเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ยอดขายเหล็กคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25%ของยอดขายรวมของบริษัท) ทั้งนี้ เนื่องจาก SSSG ของ DOHOME สูงถึง 22.5% ในไตรมาส 1/2564 และยังมีแนวโน้มจะดีต่อเนื่องในไตรมาส 2/2564ทางฝ่ายจึงเชื่อว่า SSSG ของบริษัทในปีนี้น่าจะเป็นไปตามสมมติฐานของทางฝ่ายที่ 12%

อัตรากำไรขั้นต้นของ DOHOME ในไตรมาส 1/2564 อยู่ที่ 21.7% และ น่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาสส 2/2564 เนื่องจาก 1) ราคาเหล็กเพิ่มขึ้น (ราคาเหล็กยังคงเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ต้นไตรมาสจนถึงปัจจุบัน โดยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยถึงประมาณ 100%เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน) 2) การใช้กลยุทธ์ขายสินค้า house brand 3) product mix ที่ดีขึ้นของร้าน size L และ 4) ประสิทธิภาพในการต่อรองกับ suppliers

ดังนั้น ทางฝ่ายจึงมองว่าสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ของทางฝ่ายที่ 21.4% น่าจะยังมี upside บ้าง ซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นทุกๆ 1ppt จะทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 10% อย่างไรก็ตามคาดว่ากำไรของ DOHOME จะโต~200% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ในไตรมาส 2/2564และ 136% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ในปี 2564 ทางฝ่ายยังคงคำแนะนำ 'ซื้อ' และประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ที่ 34.00 บาท

ที่มา : www.thunhoon.com