ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์และข่าวแจ้งสื่อมวลชน
DOHOME รับเงินเพิ่มทุน 2 พันลบ. ฉุด D/E เหลือ 1 เท่า ลุยขยายสาขา
DOHOME ขายหุ้นเพิ่มทุน 75.5 ล้านหุ้น ให้สถาบัน-รายย่อย 50 ราย คาดได้เม็ดเงิน 2,000 ล้านบาท ฉุด D/E เหลือ 1 เท่า จากปัจจุบัน 1.96 เท่า เล็งนำเงินขยายสาขาให้ได้ตามแผนครบ 36 แห่งในปี 68 ส่วนปีนี้มั่นใจรายได้เข้าเป้าแตะ 20,000 ล้านบาท
นางสาวมยุรีย์ สีทา ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับดูแลกิจการ เลขานุการ และนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรืออ DOHOME เปิดเผยกับ 'สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย' ว่า บริษัทได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ซึ่งจะแบ่งเป็นนักลงทุนสถาบัน ประมาณ 90% และนักลงทุนประเภทบุคคลธรรม ประมาณ 50 ราย จำนวนรวม 75.5 ล้านหุ้น กำหนดราคาเสนอขายที่ 26.25 บาท โดยบริษัทกำหนดเงินในวันที่ 9 ก.ค. และ 12 ก.ค.นี้ โดยคาดว่าจะได้เม็ดเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท ส่วนหุ้นที่เหลือจะไม่นำมาเสนอขายอีก
สำหรับรายละเอียดสถาบัน และนักลงทุนรายย่อยที่ได้รับการจัดสรรครั้งนี้ บริษัทได้ยื่นเอกสารให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบแล้ว และคาดว่าจะมีการเปิดเผยในลำดับถัดไป
การเพิ่มทุนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการจัดหาเงินทุน เพื่อรองรับแผนการขายธุรกิจและการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ทั้งจะช่วยให้บริษัทมีโครงสร้างเงินทุนที่เหมาะสม ลดการพึ่งพิงเงินกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งจะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น(D/E) ปรับลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 1 เท่าเศษ จากไตรมาส 1 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.96 เท่า อย่างไรก็ตามปัจจุบันสถาบันการเงิน 3 แห่ง ได้ผ่อนคลาย D/E Covenant แล้ว โดยอยู่ที่ไม่เกิน 2.5 เท่า จากเดิมไม่เกิน 2 เท่า
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะใช้ในการลงทุนขยายสาขาขนาดใหญ่ หรือไซต์ L เพิ่มอย่างน้อยปีละ 5 สาขาต่อปี โดยแต่ละสาขาคาดจะใช้เงินลงทุนประมาณ 400-450 ล้านบาท ไม่รวมที่ดิน ตั้งแต่ปี 65-68 ซึ่งจะทำให้ในปี 68 มีสาขาขนาดใหญ่ หรือ ไซต์ L-XL รวม 36 สาขา จากปัจจุบันอยู่ที่ 16 สาขา รวมถึงจะใช้ในการขยายศูนย์กระจายสินค้าเพื่อรองรับการเติบโตของสาขา เพิ่มความคล่องตัวสำหรับโอกาสการลงทุนอื่นๆ ในอนาคต นอกจากนี้จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม และการปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัท เป็นต้น
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/64 คาดดีกว่าไตรมาส 1/64 เนื่องจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) สูงกว่าไตรมาส 1/64 ที่อยู่ที่ 22.5% ขณะที่ยอดขายรวมโต 40% กำลังซื้อยังดีแม้โควิดระบาดรอบ 3 ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นมองว่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1/64 อยู่ที่ระดับ 21.7%
สำหรับทั้งปีนี้บริษัทยังคงเป้ารายได้มีโอกาสเติบโตแตะระดับ 20,000 ล้านบาท จากยอดขายสาขาเดิมที่โตดี และการรับรู้ยอดขาย 2 สาขาใหม่ ที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ได้แก่ โซนอมตะนคร จ. ชลบุรี และในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่เปิดปลายปีนี้ แต่ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่าจะยืดเยื้อแค่ไหน เนื่องจากการอาจกระทบกับการบริโภคบ้าง
ที่มา : www.efinancethai.com