ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์และข่าวแจ้งสื่อมวลชน

DOHOME โบรกฯ มองเพิ่มทุน กระทบราคาเป้าหมายราว 1.5 บ.


ทันหุ้น - บล.เคทีบีเอสที ส่องหุ้น บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME หลังบริษัทได้มีมติอนุมัติการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจํานวน 75.5 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท ให้แก่นักลงทุนในวงจํากัด (private placement) โดยได้กําหนดราคาเสนอขายสุดท้าย ที่ราคาหุ้นละ 26.25 บาท

ราคาดังกล่าวถูกกําหนดโดยกระบวนการสํารวจความต้องการจองซื้อ โดยนักลงทุนสถาบันในแต่ละช่วงราคา (Bookbuilding) ซึ่งเป็นราคาที่ไม่เข้าข่ายเป็นการเสนอขายหุ้นราคาตํ่าตามประกาศคณะกรรมการตลาดทุนที่ ทจ. 72/2558 0 และไม่ตํ่ากว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด (ราคาตลาด หมายถึง ราคาถัวเฉลี่ยถ่วงนํ้าหนักของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้อนหลังไม่น้อยกว่า 7 วันทําการติดต่อกัน แต่ไม่เกิน 15 วันทําการติดต่อกัน ก่อนวันที่คณะกรรมการบริหารจะกําหนดราคาเสนอขายสุดท้าย ซึ่งคือวันที่ 16 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่ 6 ก.ค. 21 ซึ่งจะเท่ากับ 26.95 บาท) ตามที่คณะกรรมการบริษัทกําหนด

ทั้งนี้ บริษัทฯ กําหนดระยะเวลาชําระค่าหุ้นเพิ่มทุนในวันที่ 9 และ 12 กรกฎาคม 2564 เป็นการเสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนบุคคลธรรมดา และ/หรือนิติบุคคล และไม่เข้าข่ายที่จะต้องอยู่ในกําหนดระยะเวลาห้ามขายหุ้น (Silent Period) เนื่องจากไม่ใช่การเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ในราคาตํ่าตามประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการพิจารณาคําขอให้รับหุ้นสามัญหรือหุ้นบุริมสิทธิในส่วนเพิ่มทุนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน

ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นกลางต่อข่าวดังกล่าว เนื่องจากราคาเพิ่มทุนที่ 26.25 บาท ถือว่าไม่ต่างจากราคาตลาดมากนัก คิดเป็นส่วนลดจากราคาตลาด 9.5% และจำนวนหุ้นออกใหม่คิดเป็น 3.21% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด จึงคาดว่าจะส่งผล dilution effect เล็กน้อย (กระทบราคาเป้าหมายเราราว 1.5 บาท)

สำหรับในระยะสั้นอาจทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงได้ ทั้งนี้ บริษัทจะได้เงินเพิ่มทุนรวม 2 พันล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการขยายสาขาในปีหน้าจำนวน 5 สาขา โดยสาขาที่เปิดใหม DOHOME size L สาขาบ่อวิน ได้รับการตอบรับที่ดีเกินเป้า (ยอดขายทำได้ถึง 1.8-2 ล้านบาท/วัน)

ดังนั้นมองว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้จะช่วยทำให้ D/E ratio และ PER ของ DOHOME ปรับลดลง ในขณะที่บริษัทจะยังสามารถมีการเติบโตที่โดดเด่นจากการขยายสาขาเมื่อเทียบกับกลุ่ม ดังนั้น หากราคาปรับถอยลงมา ยังมองเป็นโอกาศในการเข้าลงทุน ด้วยผลประกอบการ Q2/64 ที่จะทำ all time high คาดว่าระคาหุ้นจะยังมีโอกาศปรับขึ้นต่อได้ เบื้องต้นยังคงคำแนะนำ 'ซื้อ' ที่ราคาเป้าหมาย 35.00 บาท

ที่มา : www.thunhoon.com