ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์และข่าวแจ้งสื่อมวลชน

มีการวิเคราะห์กันว่า กำไรสุทธิ Q2/64 ของ DOHOME จะอยู่ที่ 616 ลบ. เพิ่มขึ้น 321% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

มีการวิเคราะห์กันว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 2/2564 ของบริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME จะอยู่ที่ 616 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 321% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อน

ทั้งนี้ ประเมินว่าจะหนุนรายได้สูงสุดในประวัติการณ์ที่ 6.42 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อนเนื่องจากมีจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นมาอีก 1 สาขา ทำให้มีสาขารวมทั้งหมด 26 สาขา เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563 ที่ 22 สาขา และ SSSG เติบโตเพิ่มขึ้น 25% จากฐานต่ำในไตรมาส 2/2563 และราคาเหล็กที่ยังสูงกว่าปีก่อน

นอกจากนี้ คาดอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นมาที่ 22.5% (จากไตรมาส 1/2564 ที่ 21.7% และไตรมาส 2/2563 ที่ 14.9%) แม้ราคาเหล็กเริ่มปรับตัวลง อย่างไรก็ตามคาดบริษัทสามารถ maintain การเติบโตของอัตรากำไรขั้นต้นได้อย่างต่อเนื่องจากการเจรจากับ supplier ให้ส่งของผ่าน DC ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง ขณะที่ DOHOME size L สาขาใหม่ทำได้ดีเกินเป้า ซึ่งทำให้ product mix ดีขึ้นและหนุน margin และส่งเสริมการขายสินค้าที่มี margin สูง

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 6,132.03 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 4,607.43 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 543.15 ล้านบาท หรือ 0.23 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 177.30 ล้านบาท หรือ 0.08 บาทต่อหุ้น

ผลดังกล่าวทำให้ บล.เคทีบีเอสที ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ขึ้นมา +16% ที่ 2.03 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 180% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) หลักๆ มาจากการปรับ 1) SSSG ขึ้นมาที่เพิ่มขึ้น 18% จากงวดเดียวกันของปีก่อน (เดิมเพิ่มขึ้น 15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) โดยได้อานิสงส์จากรัฐบาลเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ หนุนภาคการก่อสร้าง ประกอบกับการระบาดของโควิดระลอกใหม่ที่มีวงกว้าง ทำให้ผู้คนมีการ WFH และได้ตกแต่งซ่อมแซมที่พักอาศัยมากขึ้น และ DOHOME มีหลายสาขาในภาคอีสาน ซึ่งได้รับผลกระทบของโควิดน้อยกว่าภาคกลาง และเมืองท่องเที่ยว รวมทั้งอัตรากำไรขั้นต้นปรับขึ้นมาที่ระดับ 21.5% (เดิม 20.5%)

นอกจากนี้ ปรับกำไรสุทธิปี 2565 ขึ้น +17% มาที่ 2.25 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หลัก ๆ มาจากปรับอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นมาที่ 21.5% (เดิม 20.0%) เนื่องจากมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าบริษัทจะสามารถรักษา margin ได้อย่างยั่งยืน ด้วยการปรับกลยุทธ์ในการบริหาร อาทิ การสั่งของ ต่อรองกับ supplier โดยหันมาใช้ DC มากขึ้น การปรับสาขาใหม่เป็น DOHOME size L ที่มีขนาดเล็กลง และเลือกการวางสินค้าที่มี margin สูงขึ้น

โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 35.00 บาท แนะนำ 'ซื้อ'

ที่มา : www.kaohoon.com