ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์และข่าวแจ้งสื่อมวลชน

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -7 ก.พ. 65 16:17 น.

เปิดแผนงานปี 65 หุ้นค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง DOHOME หวังรายได้โตกว่า 10% ด้าน GLOBAL หวังเติบโตมากกว่า 20% ขยายสาขาเพิ่มมากสุด 7 สาขา และ HMPRO หวังเติบโตขั้นต่ำ 5% ใช้งบรวม 5-6 พันลบ.

ผู้สื่อข่าว 'สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย' ได้สำรวจภาพรวมอุตสาหกรรมหุ้นค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง พบว่าแผนการดำเนินงานในปี 65 คาดหวังการเติบโตที่ชัดเจนมากขึ้นจากปี 64 ตอบรับการบริโภคที่มีโอกาสฟื้นตัวได้จากการคลายความกังวลโควิด-19 ซึ่งผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้ง 3 เจ้า ทั้ง บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME , บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL และบริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ได้ทยอยเปิดเผยข้อมูลแผนงานบางส่วนแล้ว

โดยสำนักข่าวได้สำรวจข้อมูลถึงแนวโน้มการเติบโตในแง่ของรายได้ จำนวนสาขาใหม่ และงบลงทุนในปี 65 โดยมีรายละเอียดดังนี้

*** DOHOME หวังรายได้ปี 65 โตกว่า 10% เปิด 5 สาขาใหม่

นางสาวมยุรีย์ สีทา ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับดูแลกิจการ เลขานุการ และนักลงทุนสัมพันธ์ เปิดเผยกับ 'สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย' ก่อนหน้านี้ว่า ภาพรวมรายได้ในปี 65 คาดหวังการเติบโตกว่า 10% จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่ามีโอกาสทำได้ 24,000-25,000 ล้านบาท จากภาพรวมกำลังซื้อของกลุ่มผู้บริโภคที่คาดว่าจะเริ่มกลับมา หลังคลายความกังวลสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งคาดว่าการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) จะมากกว่าระดับ 2 ดิจิท หรือกว่า10%

รวมถึงในปี 65 จะเปิด 5 สาขาใหม่ โดยใช้งบการลงทุนสาขาละประมาณ 450 ล้านบาท หรือคิดรวมประมาณ 2,250 ล้านบาท ซึ่งในบางสาขาเริ่มก่อสร้างไปก่อนแล้วตั้งแต่ช่วงกลางปี 64 เพื่อจะเปิดสาขาใหม่ให้ทันในช่วงไตรมาส 1/65 ประมาณ 1 สาขา และทยอยเปิดสาขาในไตรมาสถัดๆ ไป ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้ประกอบกัน

โดยบล.เคทีบีเอสที ระบุว่า คาดการณ์กำไรสุทธิปี 65 ที่ 2,450 ล้านบาท รายได้ที่ 32,000 ล้านบาท จากการขยาย 5 สาขา ซึ่งเปิดสาขาแรกในไตรมาส 1/65 และSSSG ที่ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ 20.2% ซึ่งเป้าหมาย GPM ของบริษัทอยู่ที่ 18-21% จากการปรับ product mix การเจรจากับ supplier การเพิ่มสินค้า House Brand และการ utilize DC มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ประมาณการอาจมี downside หากราคาเหล็กปรับตัวลง และสัดส่วนยอดขายวัสดุก่อสร้างยังคงสูงเมื่อเทียบกับยอดขายรวม ประเมินราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 35 บาท แนะซื้อ

*** GLOBAL หวังรายได้ปี 65 โตกว่า 20% ขยาย 7 สาขาใหม่

นางสาวชุติกาญจน์ ศรีแสงจันทร์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL เปิดเผยในงาน Opportunity Day ก่อนหน้านี้ว่า แผนการดำเนินงานในปี 65 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 64 แตะ 30,000 ล้านบาท

ด้านการขยายสาขาใหม่ในปี 65 มีแผนจำนวน 7 สาขา และปี 66 จำนวน 8 สาขา ส่งผลให้ภายในปี 66 จะมีสาขาที่เปิดให้บริการรวมมากกว่า 91 สาขา จากสิ้นปี 64 ที่จะมีสาขาเปิดให้บริการทั้งสิ้น 76 สาขา โดยวางงบประมาณลงทุนงานก่อสร้างรวมที่ดินในการเปิดสาขา 250 ล้านบาทต่อสาขา

บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่าปลายสัปดาห์ที่แล้ว GLOBAL ได้ประกาศการลงทุนเพิ่มเติมใน 'PT Caturkarda Depo Bangunan' (CKDB) ร้านค้าปลีกในอินโดนีเซีย หลังจากการซื้อครั้งแรกในเดือนพ.ย.64 ผ่าน Global House International (GBI) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของ GLOBAL กับ Siam Cement (50%) โดยการลงทุนใหม่มีมูลค่ารวมประมาณ 713 ล้านบาท ซึ่งจากรายงานกำไรสุทธิปี 63 ของ CKDB โบรกฯ คาดการลงทุนนี้จะเพิ่มส่วนแบ่งกำไรประมาณ 1% ให้กับ GLOBAL โดยภาพรวมแนะนำ 'ซื้อ' มูลค่าที่เหมาะสม 24.70 บาท เนื่องจาก SSSG ที่แข็งแกร่ง

*** HMPRO หวังรายได้ปี 65 โตกว่า 5% ขยายสาขา 4-5 แห่ง ในประเทศ

นายรักพงศ์ อรุณวัฒนา ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบัญชีและงบประมาณ บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยกับ 'สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย' ก่อนหน้านี้ว่า คาดภาพรวมรายได้ในปี 65 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 5% โดยเป็นระดับที่ยังเติบโตแบบระมัดระวัง เนื่องจากต้องติดตามสถานการณ์ผลกระทบโควิด-19 ประกอบกัน โดยประเมินยอดขายของสาขาเดิม (SSSG) ปีนี้เติบโตประมาณ 3-5%

ซึ่งไตรมาสแรกของปี มั่นใจว่า SSSG จะยังคงเป็นบวก เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่คลี่คลาย ประกอบกับโครงการ'ช้อปดีมีคืน'ของภาครัฐยังช่วยหนุนกำลังซื้อให้กลับมา ขณะที่งบลงทุนปีนี้บริษัทฯวางไว้ที่ 5,000 - 6,000 ล้านบาท โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่มาจากการดำเนินงาน และอาจกู้เพียงบางส่วน เพื่อการขยายสาขาใหม่ในปีนี้ ซึ่งบริษัทยังคงเน้นในประเทศประมาณ 4-5 สาขา

บล.เอเซียพลัส เปิดเผยว่าฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 65 ไว้ที่ 6,000 ล้านบาท เติบโต 14.4% เชื่อว่าเป็นบริษัทแรกๆ ในกลุ่ม Reopening ที่กลับมาฟื้นตัวถึงระดับก่อนโควิด-19ได้ แม้ฝ่ายวิจัยกำหนดสมมติฐานไว้อย่างอนุรักษ์นิยมทั้ง SSSG ทั้งปีที่ 3.5% แนะนำ ซื้อ มูลค่าพื้นฐานที่ 16 บาท

ที่มา : www.efinancethai.com