ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์และข่าวแจ้งสื่อมวลชน

DOHOMEกำไรพุ่ง1.8พันล. กำลังซื้อไตรมาสแรกคึกคัก


#DOHOME #ทันหุ้น - DOHOME เปิดงบปี 64 กำไรสุทธิ 1,818.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 150.2% จากปีก่อน ขณะที่รายได้โต 37.5% แตะ 25,917.78 ล้านบาท ส่งซิก SSSG เดือนม.ค.65 พุ่ง 28% และคาดว่าทรงตัวระดับสูงได้ต่อในเดือนก.พ.-มี.ค. มองโค้งแรกกำลังซื้อคึกคัก เศรษฐกิจฟื้นตัวลูกค้ากลับมาจับจ่ายใช้สอยเพิ่ม

นางสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 25,917.78 ล้านบาท เติบโต 37.5% หรือเพิ่มขึ้น 7,057.94 ล้านบาทจากปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,818.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 150.2% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน หรือมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 7.0% หลักๆ เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายเดิม 25.5% รายได้จากสาขาที่ดำเนินการครบปีในปี 2564 ได้แก่ สาขาสุรินทร์ และมาบตาพุด และ Dohome ToGo 6 สาขา และรายได้จากการเปิดสาขาใหม่ในปี 2564 ได้แก่ สาขาแหลมฉบัง บ่อวิน ชลบุรี สุราษฎธานี และ Dohome ToGo 2 สาขา

กำลังซื้อฟื้น

สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา มองว่ากำลังซื้อในประเทศมีทิศทางการฟื้นตัวที่ค่อนข้างดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีการะบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน แต่ด้วยประสบการณ์ทำให้ประชาชนสามารถปรับตัวรับมือได้ อีกทั้งมองว่าโครงการ 'ช้อปดีมีคืน' ของภาครัฐ ทำให้ไตรมาสแรกปีนี้บรรยากาศการใช้จ่ายมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น คาดดันยอดขายได้เพิ่ม 1-2%ของยอดขายโดยรวมได้

ทั้งนี้ ยอดขายรวมในช่วงเดือนมกราคม 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 40-43%เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) เฉลี่ยทั้งเดือนสูงกว่า 25-28%เมื่อเทียบช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 15-17%ซึ่งเป็นไปตามกำลังซื้อในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น อีกทั้ง จากการเข้าไฮซีซันของธุรกิจรีเทล ลูกค้ามีความต้องการตกแต่งบ้านรับปีใหม่ ผู้รับเหมาเดินหน้างานก่อสร้างโครงการที่ได้รับ ทำให้ความต้องการสินค้าก่อสร้างและตกแต่งเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2565ด้วย

คาดว่าจะหนุนให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2565จะมีการเติบโตที่ดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าจะดีอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทวางการใช้งบลงทุนไว้ที่ประมาณ 2,000-2,250 ล้านบาท รองรับการก่อสร้างสาขาใหม่ ซึ่งในปีนี้วางเป้าหมายเปิดสาขาไซส์ L จำนวน 5 สาขา โดยไม่เกินปลายเดือนมีนาคม คาดว่าจะเปิดสาขาใหม่ในภาคอีสานอย่างน้อย 1สาขา ที่เหลือจะทยอยเปิดต่อเนื่องในไตรมาส 2 และ 3/2565 ตามลำดับ นอกจากนี้ยังเดินหน้าเพิ่มสาขาขนาดเล็ก (Dohome to Go) อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะได้เห็นในปีนี้เพิ่มเติมอีกไม่น้อยกว่า 8 สาขา

ปันผล0.02 บาท/หุ้น

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กำไรสุทธิ DOHOME ในไตรมาส 4/64 อยู่ที่ 333 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน แต่ลดลง 2% จากไตรมาสก่อน เป็นไปตามประมาณการของทางฝ่าย แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดคาดไว้ 6% ที่ทำให้กำไรสุทธิในปี 2564 อยู่ที่ 1.78 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 150% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ต่ำกว่าประมาณการเต็มปีของทางฝ่ายประมาณ 9%

ยอดขายของ DOHOME ในไตรมาส 4/64 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 7.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และเติบโต 21% จากไตรมาสก่อน สูงกว่าที่คาดไว้ถึง 18%ทำให้ยอดขายในปี 64 อยู่ที่ 2.58 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดย SSSG ในไตรมาส 4/64 อยู่ที่ประมาณ 40% (คาดไว้เพียง 38%) ทำให้ SSSG ในปี 64 อยู่ที่ 25% (สูงกว่าสมมติฐานปี 64 ของทางฝ่ายที่ 17%) ทั้งนี้ บริษัทเปิดร้านใหม่ Size L 2 แห่ง ในไตรมาส 4/64 ทำให้จำนวนสาขาทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 26 ร้าน (Size XL&L 16 ร้าน และ Dohome To Go อีก 10 ร้าน)

ถึงแม้ทางฝ่ายจะคาดไว้อยู่แล้วว่าอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 4/2564 จะลดลง แต่อัตรากำไรขั้นต้นของ DOHOME ยังออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยอยู่ที่ 17.2%ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 18.6% เนื่องจาก 1. product mix ไม่ค่อยดี (ค่อนไปทางยอดขายวัสดุก่อสร้าง) 2. ราคาเหล็กทรงตัว 3. มีการจัดแคมเปญการตลาดเพื่อระบายสินค้าที่ขายออกได้ช้า และ 4. ต้นทุน logistic เพิ่มขึ้นในการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2564 อยู่ที่ 20.2% ต่ำกว่าสมมติฐานปี 2564 ของทางฝ่ายที่ 21.9%

คณะกรรมการของ DOHOME อนุมัติ 1) จ่ายหุ้นปันผลในอัตรา 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ คิดเป็นจำนวนหุ้นรวมไม่เกิน 484.4 ล้านหุ้น 2) จ่ายเงินปันผล 0.02 บาท/หุ้น คิดเป็นวงเงินรวมประมาณ 53.83 ล้านบาท โดยกำหนดขึ้น XD วันที่ 4 มีนาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 18 พฤษภาคม 2565คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 1% จากราคาปิดล่าสุด ดังนั้น ทางฝ่ายจึงยังคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ไว้ที่ 34.00 บาท แนะนำ 'ซื้อ'

ที่มา : www.thunhoon.com