ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์และข่าวแจ้งสื่อมวลชน

DOHOME นิวไฮรอบ 7 เดือน ... กำไรผ่านจุดพีคหรือยัง


เช้านี้ DOHOME ดีดทำนิวไฮรอบ 7 เดือน รับ SSSG ตั้งแต่ต้นปีโตราว 27 - 29% สูงสุดในกลุ่ม หนุนผลงานครึ่งแรกฟื้นตัวได้ ขณะที่โบรกฯ ประเมินจุดพีคปีนี้ อยู่ครึ่งปีหลัง ชี้เป็นจังหวะบุ๊ครายได้สาขาใหม่ปี 64 - 65 เต็มที่ ดันมาร์จิ้นสูงขึ้น ประเมินกำไรปีนี้ ไว้ที่ 1.8 - 2 พันลบ. ทำ All Time High ต่อเนื่อง
*** นิวไฮ 7 เดือน รับ SSSG โตแรงกว่ากลุ่ม
ราคาหุ้น บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME ช่วงเช้าวันนี้ (21 มี.ค.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 23.30 บาท ทำนิวไฮรอบ 7 เดือน ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 23 บาท เพิ่มขึ้น 0.4 บาท หรือ 1.77% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 90.05% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น DOHOME เช้านี้ ปรับตัวขึ้นทำนิวไฮในรอบ 7 เดือน เนื่องจากกำลังได้รับปัจจัยหนุน จากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ตั้งแต่ต้นปี (YTD) เติบโตสูงสุดในหุ้นกลุ่มเดียวกันราว 27 - 29% ช่วยหักล้างส่วนผสมการขายที่เปลี่ยนไปได้

*** ธุรกิจเข้าไฮซีซั่น ดันกำไร Q1/65 ฟื้น
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 ของ DOHOME มีแนวโน้มฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิ 333 ล้านบาท มีปัจจัยหนุนจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ประกอบกับฐานลูกค้า กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง และ ภาคเอกชนต่างๆ ยังมีความแข็งแกร่ง และความต้องการซื้อ
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุน จาก Product Mix โดยประเมินว่า สัดส่วนยอดขายสินค้าซ่อมแซม จะเพิ่มมากขึ้น หลังทยอยเปิดสาขาใหม่ไซส์ L ซึ่งช่วยยกระดับอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของ DOHOME ให้สูงขึ้นจากเดิมได้
สอดคล้องกับ บล.คิงส์ฟอร์ด ที่ประเมินว่า กำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/65 ของ DOHOME มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนได้ ตามทิศทางยอดขายสินค้ากลุ่มก่อสร้าง, ซ่อมแซม และกลุ่มตกแต่ง กำลังอยู่ในช่วงไฮซีซั่นของการขาย ประกอบกับ ยังได้รับประโยชน์ จากราคาเหล็กที่ปรับตัวขึ้นด้วย
*** กูรูชี้ครึ่งหลังปีนี้จุดพีค รับรู้สาขาใหม่เต็มที่
บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า กำไรสุทธิของ DOHOME ในช่วงครึ่งหลังของปี 65 มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นกว่าในช่วงครึ่งปีแรก โดยมีปัจจัยหนุน จากการรับรู้รายได้จากสาขาใหม่ไซส์ L ที่บริษัทตั้งเป้าเปิดใหม่ 5 แห่งในปีนี้ เต็มที่ โดยในช่วงครึ่งแรกของปี DOHOME จะเปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง และ ช่วงครึ่งปีหลัง อีก 3 แห่ง
สอดคล้องกับ บล.คิงส์ฟอร์ด ที่มองว่า ผลการดำเนินงานของ DOHOME มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 65 เนื่องจากเป็นช่วงที่จะเริ่มรับรู้รายได้จากการเปิดสาขาใหม่ในปี 64 จำนวน 4 แห่งเต็มปีครั้งแรก และยังเป็นช่วงที่ การเปิดสาขาใหม่ในปี 65 อีก 5 แห่ง เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น
ส่วน บล.โนมูระ พัฒนสิน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 65 ทาง DOHOME กำลังอยู่ในช่วงเร่งเปิดสาขาใหม่ให้เป็นไปตามแผน จึงคาด ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร/ยอดขาย (SG&A/sales) ยังทรงตัวสูงอยู่ในระดับ 10.5 - 11% เทียบกับปีก่อน อยู่ที่ระดับ 9.9% แต่คาดว่ามาร์จิ้น จะกลับมาเร่งตัวและเติบโตขึ้น เมื่อเทียบปีก่อนได้ ในช่วงครึ่งหลังปี 65 ภายหลังการเปิดสาขาแห่งใหม่เสร็จสิ้น
*** ส่องกำไรปีนี้ คาดยังทำ All Time High ต่อ
บล.เอเซีย พลัส ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ DOHOME ไว้ที่ 2 พันล้านบาท ทำสถิติกำไรสุทธิสูงสุดตลอดกาล (All Time High) เติบโตขึ้น 12% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจาก SSSG ในช่วงต้นปี เติบโตราว 25 - 30% ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าสมมติฐานก่อนหน้านี้ ที่คาดไว้เพียง 15%
ขณะที่ สาขาใหม่ ที่ทยอยเปิด ตั้งแต่ปี 64 ล้วนมีผลการดำเนินงานที่ดี คือ สามารถทำกำไรได้ทันที ตั้งแต่เปิดเดือนแรก จากจุดเด่น ครบ ถูก ดี ซึ่งเป็นจุดที่เหนือกว่าผู้ค้าเดิมที่ครองส่วนแบ่งตลาดหลัก จึงเชื่อว่า แผนการเปิดสาขาใหม่ ปีละ 5 แห่ง จะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนสำคัญ ต่อผลการดำเนินงานในปีนี้ และ ปีต่อไป
สรุป มีนักวิเคราะห์ 3 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ DOHOME ไว้ดังนี้

บล. กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.) %chg YoY
เอเชีย พลัส

 

2,035

 

12

 

หยวนต้า

 

1,984

 

10

 

ฟินันเซียฯ

 

1,868

 

3

 

*** โบรกฯมองหุ้นน่าสนใจลงทุน กลาง - ยาว
บล.เอเซีย พลัส มองว่า มูลค่า (Valuation) ณ ปัจจุบัน ของ DOHOME ยังมีความน่าสนใจอยู่ แม้การเติบโตของกำไรสุทธิ ตั้งแต่ปี 65 เป็นต้นไป มีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่าปี 64 ที่มีฐานกำไรสุทธิสูง แต่มองว่า ภาพธุรกิจระยะกลาง - ยาว ของ DOHOME ยังคงแข็งแกร่ง ตามโครงสร้างอุตสาหกรรม ที่เอื้อต่อการเติบโต ทั้งการแย่งส่วนแบ่งตลาดเดิม และ การเปิดสาขาใหม่
อีกทั้ง ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน อยู่ในโซนน่าสะสม สะท้อนจาก P/E ปี 65 ที่อยู่ในระดับเพียง 26.9 เท่า ประกอบกับ มีอัพไซด์น่าสนใจ ส่วนมูลค่าพื้นฐาน หลังหุ้นขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิเงินปันผล (XD) วันที่ 4 มี.ค.65 ประเมินไว้ที่ 23.4 บาท/หุ้น จึงยังคงแนะนำซื้อ แต่การเข้าลงทุน ควรอยู่ในลักษณะทยอยเข้าสะสม รอรับปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานกลับมาเติบโตโดดเด่น ในช่วงครึ่งหลังของปี 65 อีกครั้ง
*** ส่วนใหญ่แนะนำ'ซื้อ'

บล. กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.) %chg YoY
ฟิลลิป

 

ซื้อ        

 

30.00

 

เอเชีย พลัส

 

ซื้อ        

 

27.70

 

ฟินันเซียฯ

 

ซื้อ        

 

27.00

 

หยวนต้า

 

ซื้อ        

 

26.00

 

โนมูระฯ

 

ซื้อ        

 

26.00

 

ราคาเฉลี่ย

 

27.34

 

ที่มา : www.efinancethai.com