ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์และข่าวแจ้งสื่อมวลชน

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการสําหรับไตรมาส 1 ปี 2565

กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวมในไตรมาส 1 ปี 2565 เท่ากับ 8,359.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.3 จากไตรมาส 1 ปี 2564 และ มีกําไรสุทธิ เท่ากับ 459.53 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากําไรสุทธิร้อยละ 5.5 ลดลงร้อยละ 15.4 เมื่อเทียบกับกําไร ของไตรมาส 1 ปี 2564 ซึ่งเท่ากับ 543.15 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากําไรสุทธิร้อยละ 8.9 โดยมีสาเหตุหลักมาจากปัจจัย ดังต่อไปนี้

1. รายได้รวม เท่ากับ 8,359.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,227.87 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 36.3 จากไตรมาส 1 ปี 2564 โดยมี รายละเอียดดังนี้

' รายได้จากการขายและค่าบริการเท่ากับ 8,317.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,207.90 ล้านบาท หรือ ร้อยละ36.1 จากไตรมาส 1 ปี 2564 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากสาขาเดิมร้อยละ 25.1 และ การเพิ่มขึ้นของรายได้จากสาขาใหม่ รายได้อื่นเท่ากับ 42.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.97 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 90.4 จากไตรมาส 1 ปี 2564 โดย มีสาเหตุหลักมาจากการการเพิ่มขึ้นของเงินสนับสนุนจากเจ้าของสินค้าผู้จัดจําหน่ายและการเพิ่มขึ้นของ รายได้ค่าเช่าพื้นที่

2. กําไรขั้นต้น เท่ากับ 1,464.95 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากําไรขั้นต้นร้อยละ 17.6 ลดลงเมื่อเทียบกับอัตรากําไรขั้นต้นของไตรมาส 1 ปี 2564 ที่ร้อยละ 21.7 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของกลุ่มสินค้าและการลดลงของอัตรากําไรขั้นต้นของกลุ่มก่อสร้าง

3. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เท่ากับ 874.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 268.43 ล้านบาท หรือร้อยละ 44.3 จากไตรมาส 1 ปี 2564 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการเปิดสาขาใหม่ เช่น ค่าใช้จ่าย พนักงาน ค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน ค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น และการเพิ่มขึ้นของค่าคอมมิชชั่นและค่าจัดส่งสินค้า ให้กับลูกค้า ซึ่งสอดคล้องกับรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพนักงานฝ่ายบริหารที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการรับพนักงานในส่วนของสํานักงานใหญ่เพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ

4. ต้นทุนทางการเงิน เท่ากับ 67.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.87 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.1 จากไตรมาส 1 ปี 2564 ซึ่งเปลี่ยนแปลงสอดคล้องกับยอดภาระเงินกู้ที่เพิ่มขึ้น

5. ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้เท่ากับ 459.53 ล้านบาท ลดลง 83.62 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.4 จากไตรมาส 1 ปี 2564 ซึ่งสอดคล้องกับกําไรก่อนภาษีเงินได้ของกลุ่มบริษัทฯ ที่ลดลง

ที่มา : www.hooninside.com