ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์และข่าวแจ้งสื่อมวลชน

DOHOME ไฮซีซันดันครึ่งหลัง ลุยปั๊มมาร์จิ้นรับดีมานด์


#DOHOME #ทันหุ้น - DOHOME มองยอดขายครึ่งปีแรกขยายตัว หลังโควิด-19คลี่คลาย งานก่อสร้างเดินหน้าต่อได้ เจรจาซัพพลายหวังพยุงราคาสินค้าลดผลกระทบ ด้านเงินเฟ้อ-วัสดุราคาสูง กระทบกำลังซื้อ แต่ความต้องการยังมี ออเดอร์กลุ่มรับเหมายังไหลเข้าต่อเนื่อง เชื่อ SSSG ในไตรมาส 2/2565 ยืนเหนือ 15-18% ได้ คาดธุรกิจครึ่งปีหลังโตดีกว่าครึ่งแรก

นางสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565มองว่ายังคงมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการขยายสาขาใหม่ที่เพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงลูกค้าของบริษัทได้มากขึ้น ส่งผลให้ยังมียอดขายจากสาขาใหม่เข้ามาสนับสนุน โดยในไตรมาส 1/2565 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 8,363.87 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 459.53 ล้านบาท และคาดว่าไตรมาส 2/2565 จะมีทิศทางที่ดีขึ้น

*ยอดขายไปได้ดี

โดยเฉลี่ยยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) ในปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่ประมาณ 15-18% สะท้อนต่อการเติบโตของยอดขายในไตรมาส 2/2565แม้ว่าปัจจุบันทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยจะเผชิญหน้ากับสภาวะเงินเฟ้อที่มีผลกระทบต่อกำลังซื้อ ทำให้กลุ่มผู้บริโภคให้ความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น รวมถึงราคาวัสดุเกี่ยวเนื่องงานก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น แต่ด้วยการบริหารจัดการพอร์ตลูกค้าที่ดีช่วยลดการพึ่งพิงลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเกินไป ซึ่งตอนนี้งานรับเหมาก่อสร้างเริ่มกลับมาเร่งเดินหน้าโครงการต่อได้แล้ว หลังโควิด-19 คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ทำให้บริษัทยังได้รับออเดอร์จากกลุ่มดังกล่าวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ประกอบกับปัจจัยความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลกระทบทั่วโลกโดยเฉพาะสินค้าสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Goods) ค่าขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่บริษัทได้มีการเจรจากับทางซัพพลายเออร์เพื่อคงราคาหรือปรับราคาขึ้นไม่สูงมากนัก เพื่อไม่ให้กระทบต่อลูกค้า ซึ่งซัพพลายเออร์กว่า 30% จาก 2,000 ราย ให้ความร่วมมือในทิศทางที่ดี แต่อย่างไรก็ดี การนำเข้าสินค้าของบริษัทคิดเป็นสัดส่วนราว 10%ของสินค้าโดยรวมทั้งหมด ถือว่าน้อยมาก

พร้อมกันนี้ ในปี 2565บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่แบรนด์ของบริษัท (House Brand) ที่ประมาณ 18%ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงกว่าสินค้าปกติ 1 เท่าตัว รวมถึงการออกสินค้าใหม่ๆ ในทุกกลุ่มสินค้าในแต่ละไตรมาสเพื่อเข้ามาเสริมยอดขายมากยิ่งขึ้น ส่วนสินค้าเหล็กมองว่าในปีนี้ไม่น่ากังวลแม้ว่าราคาเหล็กจะแกว่งตัวผันผวนในระดับที่สูงต่อไป และมั่นใจการบริหารจัดการที่ดีได้ต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าสินค้ากลุ่มเหล็กจะยังสร้างมาร์จิ้นได้เหนือระดับ 10% ตอนปลายได้ อย่างไรก็ดี แม้ว่าราคาวัสดุก่อสร้างโดยเฉพาะกลุ่มเหล็ก ปูน และอื่นๆ จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทก็มีการเจรจาทำความเข้าใจกับลูกค้าเพื่อขอปรับขึ้นราคาให้สอดรับไปในทิศทางเดียวกันกับตลาด ซึ่งลูกค้าก็ยอมรับและเข้าใจได้

อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2565 จะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วง 6เดือนแรกของปีนี้ เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของงานก่อสร้าง รวมถึงการซ่อมแซมและบำรุงรักษาที่พักอาศัย อีกทั้งหากมีการเปิดประเทศเพื่อท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่ ก็เชื่อว่าจะมีเม็ดเงินจากต่างชาติเข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้เพิ่ม ผู้ประกอบการโรงแรมและร้านอาหารจะหันมาลงทุนรองรับการท่องเที่ยวเพิ่ม ทั้งนี้ บริษัทจะพยายามรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2565ให้อยู่ที่ระดับเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 17-20%ต่อเนื่องจากค่าเฉลี่ยในอดีต

โบรกชี้สังคมเมืองหนุน

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ทางฝ่ายเริ่มต้นการให้คำแนะนำ 'ซื้อ' DOHOME ในระยะยาวจากการเข้าสู่สังคมเมือง (Urbanization) ในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งเป็นฐานหลัก ด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ซื้อจากการซื้อร้าน Traditional Trade มานิยมรูปแบบ Modern Trade มากขึ้น และขายสินค้า House Brand เพิ่ม Margin ทางฝ่าย ประเมินราคาเป้าหมาย ไว้ที่ 20.50 บาท รวมทั้งให้เป็น Top Pick กลุ่มจากการเติบโตที่รวดเร็วสุด

ที่มา : www.thunhoon.com