ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์และข่าวแจ้งสื่อมวลชน

เช้านี้ DOHOME เคลื่อนไหวผันผวน หลังสัญญาณตั้งรัฐบาลใหม่ยังไม่นิ่ง กระทบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจ่อล่าช้า แต่โบรกฯคาดงบ Q2/66 ยังฟื้นได้ หลังกำลังซื้อยังดี - คาดบุ็คเงินเคลมประกันน้ำท่วม 60 ลบ. ประเมินงบ H2/66 เด่นกว่า H1/66 หนุนกำไรปี 66 โตแรง 62 - 106% แต่ติง Valuation หุ้นเริ่มตึงตัว

*** หุ้นผันผวน หลังตั้งรัฐบาลใหม่ยังไม่ชัด

ราคาหุ้น บมจ.ดูโฮม (DOHOME) ช่วงเช้าวันนี้ (15 พ.ค.66) เคลื่อนไหวผันผวน โดยราคาหุ้นดีดขึ้นทำจุดสูงสุดที่ราคา 14.90 บาท เพิ่มขึ้น 2.75% จากวันทำการก่อนหน้า ทำระดับราคาหุ้นสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) รอบ 2 เดือน ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 14.20 บาท ลดลง 0.3 บาท หรือ -2.07% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 82.08% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า

สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น DOHOME เช้านี้ เคลื่อนไหวผันผวน แม้ข้อมูลย้อนหลังจากการเลือกตั้ง 5 ครั้งที่ผ่านมา พบว่า หุ้นในกลุ่มค้าปลีกมักจะเคลื่อนไหวได้ดี ทั้งช่วงก่อนการเลือกตั้ง และหลังเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

แต่การเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่เพิ่งจบลง ยังไม่มีความชัดเจนของการจับคู่จัดตั้งรัฐบาลของพรรคการเมือง ทำให้มีโอกาสที่การจัดตั้งรัฐบาลอาจล่าช้ากว่าคาดการณ์เดิมของตลาด ทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ก่อนหน้านี้ตลาดคาดหวังว่าจะได้เห็นทันที อาจถูกเลื่อนไปตามความล่าช้าของการจัดตั้งรัฐบาล

*** แต่โบรกฯคาดงบ Q2/66 ยังฟื้น QoQ ได้

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 ของ DOHOME ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน (QoQ) มีปัจจัยหนุนจากการบันทึกเงินเคลมประกันน้ำท่วมราว 60 ล้านบาทอีกทั้งยังได้แรงหนุนจากกำลังซื้อที่ยังแข็งแกร่ง เนื่องจากได้เม็ดเงินในช่วงก่อนการเลือกตั้ง และในส่วนงานกลุ่มลูกค้าก่อสร้างช่วยหนุน หลัง DOHOME เริ่มหันมารับงานภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อชดเชยงานภาครัฐที่ชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมา

เช่นเดียวกับ บล.พาย ที่ประเมินว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 ของ DOHOME ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนได้ สะท้อนจากอัตราการเติบโตยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่มีแนวโน้มติดลบลดลงเหลือ 5% เทียบกับไตรมาส 1/66 ติดลบ 8.9% เพราะผลกระทบที่เบาบางลงจากราคาขายเหล็กลดลง

*** จับตา ! ผลงาน H2/66 คาดดีกว่า H1/66

บล.เอซีย พลัส ประเมินว่า ผลการดำเนินงานของ DOHOME ในช่วงครึ่งหลังของปี 66 (H2/66) มีแนวโน้มเติบโตกว่าช่วงครึ่งแรกของปี 66 (H1/66) ขับเคลื่อนด้วย 3 ปัจจัยสำคัญ ดังนี้

1.กำลังซื้อฟื้นตามภาวะเศรษฐกิจ : โดยคาดว่า ช่วงดังกล่าวจะมีความต้องการก่อสร้าง และปรับปรุงซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนของผู้บริโภค และผู้รับเหมารายย่อย ประกอบกับ แผนการเปิดสาขาใหม่ของ DOHOME 3 แห่ง และสาขาขยาดเล็กอีก 4 – 6 แห่ง จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

2.อัตรากำไรขั้นต้นจะสูงขึ้น : เนื่องจากเป็นช่วงที่ DOHOME จะเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้า House brand ที่มีมาร์จิ้นสูงได้มากขึ้น ประกอบกับ สต็อกสินค้าเหล็กราคาสูงที่บริษัทมีอยู่ในมือจะเริ่มหมดลงในช่วงกลางปี ขณะที่ราคาตลาดของเหล็กน่าจะทยอยปรับตัวขึ้น ตามความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันมาร์จิ้นสินค้าเหล็กเพิ่มขึ้นด้วย

3.ค่าใช้จ่ายลดลง : เนื่องจากคาดว่าค่าไฟฟ้าในช่วงครึ่งหลังปี 66 มีแนวโน้มลดลง ตามการปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) อีกทั้งคาดว่ารอบเดือน ก.ย. – ธ.ค.66 ก็มีแนวโน้มที่ กกพ. จะปรับลดค่า Ft ลงต่อเนื่องอีก ประกอบกับ ช่วงไตรมาส 3-4 ของทุกปีเป็นฤดูฝน ต่อด้วยฤดูหนาว ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าไตรมาส 2 จึงน่าจะประหยัดค่าไฟฟ้าจากการเปิดเครื่องปรับอากาศได้ดีกว่า

ขณะที่ บล.พาย ให้ข้อมูลเสริมว่า SSSG ไตรมาส 3/66 ของ DOHOME มีแนวโน้มพลิกกลับมาเป็นบวกได้ในหลักหน่วย และดีต่อเนื่องในไตรมาส 4/66 หนุนจากการขยายสาขาใหม่ 3 แห่ง ในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับ คาดว่า จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเลือกตั้ง และยอดขายฟื้นตัวในกลุ่มผู้รับเหมาที่มีส่วนสัมพันธ์กับงบประมาณภาครัฐฯ

*** ส่องกำไรปี 66 จ่อกลับมาโตแรง 62 - 106%

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ DOHOME ไว้ที่ 1.3 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 62% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากราคาเหล็กที่ผันผวนลดลง ขณะที่ ผลการดำเนินงานช่วงที่เหลือของปี ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนได้ ตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจในประเทศ

ด้าน นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ DOHOME ดังนี้