ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์และข่าวแจ้งสื่อมวลชน
DOHOME เตรียมเปิดสาขาใหม่ รองรับกำลังซื้อ-ดีมานด์ฟื้นตัว
#DOHOME #ทันหุ้น – DOHOME คาดไตรมาส 3/2566 ผลงานโดยรวมดีขึ้น เตรียมเปิดสาขา ดูโฮม ทูโก อีก 4 สาขา ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปีนี้อาจถูกกดดันจากมาร์จิ้นเหล็ก แต่คาดว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากนี้ จากการเน้นบริหารจัดการสต็อกสินค้า คาดกำลังซื้อเร่งตัวขึ้นหลัง จากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่
นางสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME เปิดเผยแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 3/2566 แม้ดีมานด์ในปัจจุบันอาจจะยังไม่ได้กลับมาเต็มที่ รวมถึงราคาเหล็กที่ลดลง ซึ่งโดยภาพรวมแนวโน้มยอดขายอาจยังมีโอกาสต่ำลง แต่ทางด้านอัตรากำไรบริษัทคาดว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น
*ราคาเหล็กยังต่ำ
สำหรับทิศทางราคาเหล็กในปีนี้อาจจะไม่ได้ราคาสูง เหมือนหลายปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากประเทศจีน ที่ความต้องการชะลอตัว แต่ในทางกลับกันทางบริษัทก็มีการบริหารราคาเหล็กให้สะท้อนกับราคาตลาดโดยการลดสต๊อกสินค้าลง
3“ปัจจุบันสัดส่วนเหล็กของบริษัท ก็ถือว่าอยู่ในระดับสูง ซึ่งคิดเป็นประมาณ 30% จากยอดขาย แต่ลูกค้าก็ถือว่ามีความเชื่อใจต่อบริษัทในการซื้อสินค้ามายาวนาน และถือว่าเหล็กเป็นสินค้าต้นน้ำ ซึ่งหากซื้อเหล็กลูกค้าก็จะมีการซื้อสินค้าอย่างอื่นตามมาด้วย” นางสลิลทิพ กล่าว
ส่วนความล่าช้าของการจัดตั้งรัฐบาล คาดก็อาจจะทำให้ดีมานด์ทั้งฝั่งกำลังซื้อลูกค้า end-user และลูกค้างานโครงการทั้งงานภาครัฐและเอกชนยังไม่ฟื้นตัว จากการชะลอการลงทุน
***เพิ่มสาขาใหม่
ขณะที่ภายในไตรมาสที่ 3-4 /2566 นี้ บริษัทมีแผนเปิดสาขา ดูโฮม ทูโก เพิ่มอีก 4 สาขา เนื่องจากได้รับผลตอบรับที่ดีมาก ซึ่งการเปิดสาขาใหม่จะสามารถจุดคุ้มทุน หรือ Break Even ได้ภายใน 1-2 เดือนแรก แต่ระยะเวลาก็ต้องขึ้นอยู่กับอัตรากำไรขั้นต้น แต่ส่วนใหญ่ก็จะไม่เกิน 1 ปี ทั้งหมด และมีแผนปิดสาขาของบริษัทในกลุ่มที่ทำผลการดำเนินงานได้ไม่ดีอีก 2 สาขา รวมกับในช่วงครึ่งปีแรกที่ปิดแล้ว 1 สาขา
ทั้งนี้การขยายสาขาอื่นๆ เพิ่มเติม ก็ต้องดูผลการดำเนินการในปีถัดไปแต่บริษัทมีที่ดินเพื่อรองรับไว้ สำหรับการเปิดสาขาใหม่เตรียมไว้แล้วหากผลการดำเนินงานมีการเติบโตดี ก็จะสามารถพิจารณาเปิดสาขาได้ทันที
***ผลงานโตทั้ง Q3-Q4
บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่าแนวโน้มผลประกอบการDOHOMEไตรมาส3/2566คาดว่ากำไรปกติจะเติบโตทั้งเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และก็เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการตัวเลขเติบโตของสาขาเดิม (SSSG) ติดลบน้อยลง ซึ่งเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ -7% ดีขึ้นจากเดือน มิถุนายน 2566 ที่ -12%และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้น โดย QTD อยู่ที่ 15% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2/2566 14% เเละคาดมีกำไรพิเศษจากการบันทึกเงินเคลมประกันน้ำท่วมราว 60ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 4/2566 คาดว่ากำไรจะเติบโตทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาและช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้แรงหนุนจากกำลังซื้อที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นหลังจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ส่งผลให้การลงทุนภาครัฐและเอกชนกลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง นอกจากนี้อัตรากำไรขั้นต้น ที่ฟื้นตัวต่อเนื่องสูงกว่าไตรมาส 3/2566 เนื่องจากการจัดโปรโมชั่นล้างสต๊อกสิ้นสุดลงตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2566 ส่วน SG&A คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากต้นทุนค่าไฟที่ลดลงและรายได้ที่สูงขึ้น
คงประมาณการกำไรปี 2566 ที่ 583 ล้านบาท เนื่องจากผลประกอบการครึ่งปีเเรก 2566คิดเป็น 51% ของประมาณการทั้งปี 2566คงคำแนะนำ “ TRADING” ที่ราคาเหมาะสม 10.90 บาทต่อหุ้น
ที่มา : www.thunhoon.com