ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์และข่าวแจ้งสื่อมวลชน

กลุ่มร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เข้าสู่ระยะฟื้นตัว DOHOME เด่นสุด


มิติหุ้น – ช่วงที่ผ่านมาร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างของไทยซบเซา ผลจากโครงการก่อสร้างหดหายไป ส่วนหนึ่งรอความชัดเจนทางการเมือง เรียกได้ว่าเป็นช่วงปีแห่งความยากลำบากของกลุ่มนี้ เมื่อการเมืองลงตัว รัฐบาลเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ กลุ่มร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างจึงดูสดใสขึ้น

📌 ฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) มองว่า ปีแห่งความยากลำบากได้ผ่านพ้นไปแล้ว จึงมีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เมื่อใกล้หมดฤดูฝน เข้าสู่ช่วงเริ่มต้นงานก่อสร้าง คาดว่าอุปสงค์ของวัสดุก่อสร้างจะฟื้นตัวไตรมาส 4/66 และปี 67 การเปิดประมูลโครงการทั้งภาครัฐ-ภาคเอกชนจะกลับมา หลังการเมืองชัดเจนแล้ว

📌 DOHOME และ GLOBAL ถูกกดดันตั้งแต่ครึ่งหลังปี 65 จากราคาเหล็กที่ลดลง, การย้ายถิ่นของแรงงาน,โครงการรัฐน้อยลง ปัญหาเหล่านี้น่าจะลดลงในไตรมาส 4 นี้

📌 ส่วนปัญหาภัยแล้งจากปรากฎการณ์เอลนีโญ อาจสิ้นสุดก่อนฤดูเพาะปลูกในปี 67 จึงน่าจะกระทบเล็กน้อยต่อรายได้เกษตรกรและการบริโภคในต่างจังหวัดในปีหน้า จึงมองกว่ากลุ่มร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างเข้าสู่ระยะฟื้นตัว

📌 เราเชื่อว่า DOHOME จะเป็นหุ้น Turnaround play ที่น่าสนใจสุด เพราะถูกกระทบหนักสุด กำไรสุทธิของบริษัทลดลง yoy ติดต่อกันถึง 6 ไตรมาส จากราคาเหล็กลดลง, การบริโภคภาคตะวันออกเฉียงเหนืออ่อนตัว จากแรงงานย้ายถิ่นไปเมืองท่องเที่ยว, โครงการรัฐลดลงช่วงรัฐบาลรักษาการณ์

📌 คาดว่า DOHOME จะกลับมีกำไรสุทธิเติบโต yoy ในไตรมาส 3/66 และกำไรดำเนินงานปกติจะเติบโตสูงถึง 50-926% yoy ในไตรมาส 4/66-ไตรมาส 4/67 ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกสำคัญหนุนราคาหุ้น ส่วน GLOBAL คาดว่าจะมีกำไรสุทธิโตแข็งแกร่งเช่นกัน

📌 ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จากเดิม “ถือ” หุ้น DOHOME และ GLOBAL ราคาเป้าหมายสิ้นปี 67 ที่ 14.90 บาท และ 19.90 บาทตามลำดับ แม้ทั้งสองแห่งอาจรายงานผลประกอบการอ่อนตัวในไตรมาส 3/66 แต่ในไตรมาส 4/66 เป็นต้นไป ผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวแข็งแกร่ง

📌 HMPRO แนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 15.90 บาท แม้ MegaHome มีแผนขยายสาขาเชิงรุกช่วง 2-3 ปีข้างหน้า แต่ HMPRO จะยังมีกำไรสุทธิเติบโตชะลอตัวปี 67-68 เพราะ MagaHome มีสัดส่วนเพียง 5% ของกำไร HMPRO ในครึ่งหลังปีนี้

📌 คงคำแนะนำ “Overweight” กลุ่มค้าปลีกของไทย เลือก DOHOME เป็นหุ้น Top pick ในกลุ่ม Home improvement เนื่องจากคาดว่าจะ outperform คู่แข่งช่วง 3-12 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ downside risk ของกลุ่มจะมาจากราคาเหล็กที่ปรับตัวลงอีก, การเกิดเอลนีโญต่อเนื่อง, การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น

จะทุบสถิติ ALL-Time High ที่เพิ่มสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท” นายวิชาญ กล่าว

ที่มา : www.mitihoon.com