ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์และข่าวแจ้งสื่อมวลชน

DOHOME ชูแผน BCP พร้อมเดินหน้าธุรกิจทุกสถานการณ์ บริหารจัดการต้นทุน มุ่งช่องทางออนไลน์ทุกแพลทฟอร์ม


บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME ชูกลยุทธ์ Business Continuity Plan (BCP) พร้อมเดินหน้าธุรกิจทุกสถานการณ์ เข้มบริหารจัดการต้นทุนสินค้าและเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้า House Brand พร้อมเดินหน้าขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลทฟอร์ม หลังปิดสาขาขนาดใหญ่และสาขา Dohome To GO บางแห่งเป็นการชั่วคราวเพื่อร่วมป้องกันการแพร่ระบาด ส่วนพื้นที่โซนสินค้าอุปโภคบริโภคยังเปิดให้บริการตามปกติในทุกสาขา พร้อมเข้ม 9 มาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา เพื่อดูแลพนักงานและลูกค้าอย่างเคร่งครัด

นางสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019 (COVID-19) บริษัทฯ พร้อมขับเคลื่อนภายใต้แผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ หรือ Business Continuity Plan (BCP) ที่ได้เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ โดยให้พนักงานบางส่วนทำงานจากบ้าน (Work from home) เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคระบาด พร้อมทั้งเปิดช่องทางขายผ่านออนไลน์ในหลายแพลทฟอร์ม ทั้งโซเซียลคอมเมิร์ซผ่านเฟซบุ๊ค Dohome Online, Line@Dohome และอีมาร์เก็ตเพลส (E-Market place) ทั้งลาซาด้าและช้อปปี้

นอกจากนี้ บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญของกลุ่มลูกค้าผู้รับเหมา หน่วยงานราชการ รวมถึงร้านจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างและรายย่อย ที่อาจะมีความจำเป็นต้องใช้สินค้าในช่วงนี้ ยังสามารถสั่งซื้อสินค้าทางโทรศัพท์และได้เตรียมความพร้อมสำหรับบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้านมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ เมื่อโทรสั่งซื้อสินค้าทั่วไปและสั่งซื้อผ่านออนไลน์ ครบ 2,000 บาทขึ้นไป ส่งฟรีเริ่มต้น 15 กม. (ไม่รวมสินค้าโครงสร้างและวัสดุก่อสร้าง)

ทั้งนี้ บริษัทฯได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว โดยระหว่างปิดให้บริการสาขาชั่วคราว ได้มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็น และควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด ส่วนแผนงานขยายสาขาดูโฮมขนาดใหญ่ 3 สาขาในปีนี้ ได้แก่ สาขาสุรินทร์ สาขามาบตาพุต และสาขาแหลมฉบัง เบื้องต้นยังเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ เพื่อขยายช่องทางการขายให้มากขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และห่วงใยความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานเป็นสำคัญ โดยได้ดำเนินการปิดให้บริการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ถึง 30 เมษายน 2563 ประกอบด้วย การปิดบริการสาขาขนาดใหญ่ 8 สาขา ได้แก่ สาขารังสิต, บางบัวทอง ,พระราม2 ,นครราชสีมา, เพชรเกษม ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ และสาขาขนาดเล็ก (Dohome To GO) จำนวน 6 สาขา ได้แก่ สาขาแม็คโครจรัญสนิทวงศ์, แม็คโครสาทร, บิ๊กซีบางพลี, โลตัสโคราช,พันธ์ทิพย์งามวงศ์วาน และโลตัสบางนา

อย่างไรก็ตาม พื้นที่โซนสินค้าอุปโภคบริโภคในสาขนาดใหญ่ทุกแห่ง ยังเปิดให้บริการ (ซื้อกลับบ้าน) ตามปกติ พร้อมเพิ่ม 9 มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า ได้แก่ (1) ตั้งจุดคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายลูกค้าบริเวณประตูทางเข้า (2) เพิ่มจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ (3) ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายพนักงานทุกคนก่อนเริ่มปฏิบัติงาน (4) รณรงค์ให้ลูกค้า และพนักงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัย (5) ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่สัมผัสบ่อยด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ (6) ทำความสะอาดพื้นที่สาขาด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกชั่วโมง (7)เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดห้องน้ำ พร้อมตรวจสอบกระดาษชำระและสบู่ล้างมือให้เพียงพอ (8) ติดตั้งป้ายแนะนำการปฏิบัติตนเมื่อพบว่ามีไข้ และ (9) เตรียมพร้อมนำส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลเมื่อมีการร้องขอ