ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์และข่าวแจ้งสื่อมวลชน
ASPS เสิร์ฟ 3 หุ้นพื้นฐานดี ราคาย่อจนน่าซื้อสะสม
ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.เอเชีย พลัส หรือ ASPS มองประเด็นการเมืองยังร้อนแรง ถึงแม้จะผ่านการชุมนุมใหญ่ของนักศึกษาไปแล้ว แต่ยังมีการจัดการชุมนุมอีกในช่วงปลายสัปดาห์นี้ และช่วงกลางเดือน ต.ค. ซึ่งความไม่แน่นอนดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งที่กดดันให้ตลาดหุ้นปรับขึ้นได้ยาก
นอกจากนี้ช่วงเดือน ก.ย. - ต.ค. มักเป็นช่วงฤดูมรสุม ทั้งฝั่งทวีปอเมริกาใต้ เผชิญกับพายุเฮอริเคน Teddy Beta และ Wilfred ที่ทยอยพัดเข้ามาอ่าวแม็กซิโก ทำให้โรงน้ำมันในแถบนั้น (กำลังผลิต 17% ของสหรัฐ) ต้องหยุดผลิตชั่วคราว ถือเป็นบวกต่อหุ้นน้ำมัน รวมถึงประเทศไทยยังเผชิญกับผลกระทบจากฤดูมรสุม ทำให้เกิดน้ำท่วมในบางแห่ง
ดังนั้นกลยุทธ์แนะนำสะสมหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งราคาย่อตัวลงจนน่าซื้อ NOBLE (P/E ต่ำ, ปันผลสูง กว่ากลุ่มอยู่มาก) และหุ้นที่มีแรงบวกเฉพาะตัวในช่วงฤดูมรสุมPTT (ราคาน้ำมันขึ้น), DOHOME (Sentiment ที่ดีต่อหุ้นวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง)
PTT(FV @ 41.00)ราคาน้ำมันดิบในช่วงสั้นปรับตัวขึ้นมาเร็วและแรง จากประเด็นพายุที่เข้ามาในชายฝั่งเม็กซิโกถือเป็นบวกต่อหุ้นน้ำมันอย่าง PTT ที่ราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองเชิงบวกเท่าที่ควรและยังได้ปัจจัยหนุนเสริมจากความคืบหน้า เรื่องการนำบริษัทลูกอย่าง OR เข้าซื้อขายในตลาดฯซึ่งช่วยเพิ่มสีสันให้กับ PTT อีกหนึ่งแรง
NOBLE(FV @ 22.70)พัฒนาการเชิงบวกที่มีการเปลี่ยนแปลงเด่นชัด หลังปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นตั้งแต่ปี 2562ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในอนาคตผ่านกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าต่างชาติ และเพิ่มพอร์ตสินค้าราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท เพื่อครอบคลุมทุกตลาด คาดแนวโน้ม 2H63 มีกำไรปกติ 1 พันล้าน และผลักดันกำไรปกติปีนี้ 1.69 พันล้านบาท ก่อนเพิ่มเป็น 1.73 พันล้านบาท ในเชิง Valuation ที่มี PER63Fต่ำเพียง 3-4 เท่า และ Div Yield สูงสุดในกลุ่มฯกว่า 16% ต่อปี
DOHOME(FV64 @ 15.00)ท่ามกลางภาพรวมกลุ่มค้าปลีกยังฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป หากพิจารณาจากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามของฝ่ายวิจัย พบว่า มี DOHOME ที่ฟื้นตัวหลัง COVID-19 เป็นบวกอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่างวด 3Q63 จะโดดเด่นสุดในกลุ่มฯ สะท้อนจาก 1) ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) 3Q63 QTD ที่เติบโตสูงราว 12%yoy หากไม่รวมผลฐานต่ำ (น้ำท่วมสาขาอุบลก.ย.62) คาด SSSG ยังสูง 7.5% จากทั้งยอดขายค้าปลีก - ค้าส่ง (อย่างละ 50% ของยอดขาย)
2) Gross margin จะกลับมาขยายตัว หลังยอดขายปลีกหน้าร้านฟื้นตัว หนุนการผลักดันสินค้า Private Brand โดยเฉพาะสินค้าปรับปรุงและตกแต่งบ้านที่มีมาร์จิ้นสูง นอกจากนี้ อีกพัฒนาการที่ฝ่ายวิจัยชื่นชอบ คือ ล่าสุด DOHOME มีการเปิดสาขาใหญ่ 1 แห่ง (เดือนก.ค.63) ซึ่งปัจจุบันสร้างกำไรได้แล้วในเพียง 1.5 เดือน เร็วกว่าเป้าบริษัทที่ภายใน 4 เดือน สะท้อนความสำเร็จรูปแบบสาขา + กลยุทธ์ ทั้งความครอบคลุมสินค้า + ราคา ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ช่วยให้สามารถแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งโดยรอบได้ ทั้งกลุ่มร้านค้าดั้งเดิม และโมเดิร์น เทรด สะท้อนจากที่มีสาขาคู่แข่งทั้ง HMPRO, GLOBAL, ไทวัสดุ (CRC) รายล้อม สอดคล้องกับที่ฝ่ายวิจัยเคยนำเสนอ จึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ โดยปรับใช้มูลค่าพื้นฐานปี 2564 ที่ 15 บาท
ที่มา : thunhoon.com