ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์และข่าวแจ้งสื่อมวลชน
'ดูโฮม' คาดเข้าตลาดหลักทรัพย์ 6 ส.ค. เคาะ 7.80 บาท/หุ้น เปิดสาขาเพชรเกษมปีนี้
ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง 'ดูโฮม' คาดเข้าตลาดหลักทรัพย์วันแรก 6 ส.ค.นี้ เคาะราคา 7.80 บาทต่อหุ้น เตรียมเปิดอีก 2 สาขา เพชรเกษม และ สุราษฎร์ธานี ภายในปีนี้ พร้อมขยายโมเดลไซส์เล็ก 'ดูโฮม ทู โก' ตามแม็คโคร เทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี ตั้งเป้า 90 สาขาในปี 64
นายภูธดา ธีรเวชชการ รองผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ประมาณวันที่ 6 ส.ค. หุ้นบริษัทฯ (ชื่อย่อ 'DOHOME' ในหมวดพาณิชย์ หรือ Commerce) จะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ไปใช้ลงทุนขยายสาขา รองรับการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งชำระเงินกู้สถาบันการเงินและภาระหนี้อื่นๆ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเดินหน้าเปิดสาขาขนาดเล็ก ในชื่อ 'ดูโฮม ทู โก' (Dohome ToGo) ขนาด 300-1,000 ตารางเมตร ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภายในพื้นที่ของซูเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ต อาทิ แม็คโคร, เทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี ซึ่งสินค้าที่จะนำมาขายจะเป็นสินค้าในกลุ่มซ่อมแซมและตกแต่ง และมีบริการสั่งซื้อสินค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ โดยจะขยายไปยังสาขาที่มีชุมชนอยู่เป็นจำนวนมาก ต้องมีค่าเช่าไม่เกิน 400 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน ซึ่งการลงทุนจะอยู่ที่ราว 2 ล้านบาทต่อสาขา หรือเฉลี่ย 6,000 บาทต่อตารางเมตร
ปัจจุบัน ร้านดูโฮม ทู โก เปิดไปแล้ว 2 สาขา ได้แก่ สาขาแม็คโคร จรัญสนิทวงศ์ และสาขาแม็คโคร สาทร พร้อมวางแผนเปิดเพิ่มอีก 90 สาขา ภายในปี 2564 ซึ่งจะทำให้ดูโฮมสามารถเข้าถึงลูกค้า และสร้างการรับรู้แบรนด์ได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งเป้ายอดขายไม่ต่ำกว่า 80,000 บาทต่อตารางเมตรต่อปี ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของบริษัทแบ่งออกเป็น กลุ่มลูกค้าทั่วไปกว่า 50% กลุ่มลูกค้าช่าง 25% กลุ่มลูกค้าประเภทร้านค้าช่วง 16% ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มลูกค้าราชการ
ส่วนสาขาขนาดใหญ่ ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 9 สาขา ได้แก่ อุบลราชธานี นครราชสีมา รังสิต ขอนแก่น อุดรธานี พระราม 2 บางบัวทอง เชียงใหม่ และบางนา โดยมีพื้นที่ขายและคลังสินค้า 35,000-65,000 ตารางเมตรต่อสาขา ซึ่งยอดขายในปี 2561 ทรงตัวอยู่ที่ 1.85 หมื่นล้านบาท คาดว่าในปี 2562 จะเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน จากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นและกระจายไปในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ผ่านสาขาขนาดเล็กของดูโฮม ทู โก ซึ่งการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ มองว่าไม่กระทบกับยอดขายมากนัก เพราะกลุ่มลูกค้าหลักส่วนใหญ่มีบ้านอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้ นายอดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ดูโฮมวางกลยุทธ์ที่จะขยายสาขาทั่วประเทศ โดยมีแผนเปิดสาขาขนาดใหญ่รูปแบบใหม่ที่มีขนาดพื้นที่เล็กลง ในหัวเมืองที่สำคัญ รวม 7 สาขาภายในปี 2564 โดยมีสินค้าครบถ้วนไม่ต่างจากสาขาเดิม รวมถึงการพัฒนาโมเดลขยายสาขาดูโฮม ทู โก เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่อาศัยอยู่ในเมือง ต้องการปรับปรุง ซ่อมแซม ตกแต่งบ้าน ตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มความคล่องตัวและรวดเร็วในการขยายสาขาของดูโฮม อย่างต่อเนื่องในอนาคต
รายงานข่าวแจ้งว่า ดูโฮมเคาะราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่หุ้นละ 7.80 บาท จำนวนไม่เกิน 456,160,000 หุ้น โดยผู้ถือหุ้นเดิม Amplus Holdings Limited เสนอขาย ไม่เกิน 8,880,000 หุ้น และจัดสรรหุ้นสามัญส่วนเกิน 56,160,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท มูลค่ารวมของหุ้นที่เสนอขายไม่เกิน 4,065,360,000 ล้านบาท โดยมี บล.กสิกรไทย และ บล.ภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เสนอขายแก่นักลงทุนในช่วงวันที่ 25-26 ก.ค. และ 30-31 ก.ค. สำหรับนักลงทุนสถาบันจองซื้อได้ในวันที่ 25-26 ก.ค. และ 30 ก.ค.
สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของเงินลงทุนสำหรับการขยายธุรกิจ ประมาณ 280 ล้านบาท พัฒนาระบบสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของกลุ่มบริษัทฯ ประมาณ 10 ล้านบาท ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมให้กับสถาบันการเงิน รวมทั้งใช้ชำระคืนภาระหนี้อื่นที่บริษัทฯ อาจมีขึ้นในอนาคต ประมาณ 3,000 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ นับเป็นการเสนอขายหุ้นไอพีโอที่มีมูลค่าสูงที่สุดนับจากต้นปีจนถึงเดือน ก.ค. 62 ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
อนึ่ง ดูโฮมเป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง และให้บริการด้านวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจร มีสาขาที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 9 สาขา โดยภายในปี 2562 จะเปิดดำเนินการอีก 2 สาขา คือ สาขาเพชรเกษม เขตเทศบาลนครอ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พื้นที่ 38,000 ตารางเมตร และสาขาสุราษฎร์ธานี พื้นที่ 38,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นสาขาแรกในภาคใต้ รวมทั้งยังมีที่ดินในจังหวัดชลบุรี และพิษณุโลกที่รอการพัฒนาโครงการ ซึ่งภายในปี 2564 มีแผนที่จะขยายสาขาดูโฮม เป็น 16 สาขา ดูโฮมทูโก 90 สาขา
ที่มา : sakhononline.com