ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์และข่าวแจ้งสื่อมวลชน

DOHOME ยอดขายโตแน่..แต่ราคาตอนนี้อาจแพงไป!


ราคาหุ้น DOHOME กระโดดขึ้นแรงต่อจากวานนี้ หลังจากที่ราคาหุ้นดิ่งลงไปแกว่งตัวร่วมเดือน เพราะความกังวล SSSG เดือนต.ค.ที่ติดลบหนัก ... แต่ล่าสุดเดือนพ.ย.กลับมาดีดแรงแล้วสะท้อนถึงการฟื้นตัวชัดเจน และก็พร้อมที่จะโตต่อเนื่องในปีหน้าด้วย แต่ราคาหุ้นในตอนนี้อาจจะถือว่าแพงไปแล้ว

*** ราคาหุ้นดีดสองวัน ทำนิวไฮรอบ 1 เดือน

วันนี้ราคาหุ้น บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME ดีดขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สอง .. ไปแตะจุดสูงสุดรอบเช้าถึง 14.60 บาท ทำนิวไฮรอบเกือบ 1 เดือน ก่อนที่จะปิดตลาดรอบเช้าไปที่ 14.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ +5.07% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น +300.44% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า

อย่างไรก็ดีในช่วงสิ้นเดือนต.ค.63 ราคาหุ้น DOHOME ถูกนักลงทุนเทขายอย่างหนักเพราะความกังวลจากประเด็นการเติบโตของยอดขายต่อสาขาเดิม(SSSG)ในเดือนต.ค.ที่ติดลบไปราว -5% YoY เนื่องจากเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนและน้ำท่วม ทำให้ราคาหุ้นลงไปซื้อขายที่ 12.80 บาทในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา

*** SSSG เดือนพ.ย.63 กลับมาโตแรง แสดงถึงการฟื้นตัวชัดเจน

สาเหตุที่ราคาหุ้นดีดขึ้นมาแรงติดกันเป็นวันที่สอง มีอยู่หลายประเด็นทั้งตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นแรงมากตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ แต่ประเด็นที่น่าจะเป็นบวกมากที่สุดก็คือ การที่ SSSG ในเดือนพ.ย.63 กระโดดขึ้นมาบวกถึง 7 - 8% YoY ทำให้ SSSG อยู่ที่ประมาณ 2% - 4% QTD

ซึ่ง บริษัทหลักทรัพย์(บล.)หยวนต้า ระบุว่า จาก SSSG ที่ติดลบในเดือน ต.ค. เพราะเป็นช่วงฤดูฝนแต่สามารถพลิกกลับมาเป็นบวกในระดับตัวเลขเดียวสูงๆในเดือนพ.ย.ได้นั้น จะทำให้ SSSG ในปี 63 อยู่ที่ 1 - 3% ได้ ทำให้แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/63 จะยังทำได้ดีต่อ ใกล้เคียงกับไตรมาส 3/63 แต่จะเติบโต YoY ทำให้กำไรสุทธิทั้งปี 63 จะทำไปได้ราว 707 ล้านบาท -2.6% YoY

*** ปี 64 ผู้บริหารลดการขยายสาขา แต่ก็ยังฟื้นได้ดีมาก

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่ามีมุมมองเชิงลบ จากที่ผู้บริหารลดเป้าการเปิดสาขาใหม่ของ DOHOME To Go ช่วงครึ่งหลังของปี 63 ลงเหลือเพียง 4 สาขา (เดิม 7 สาขา) และลดเป้าจำนวนสาขา To Go ปี 64 เหลือที่ 27 สาขา จากเดิม 90 สาขา

ทั้งนี้ เชื่อว่าแนวโน้มกำไรปี 64 ของ DOHOME จะเติบโตโดดเด่นที่ 905 ล้านบาท +28% YoY จากรายได้เติบโตเด่นเพราะการขยายสาขาขนาดใหญ่ที่เร่งตัวขึ้น และคาดอัตรากำไรขั้นต้น(GPM)ที่ดีขึ้นจาก Product mix แต่เราคาดว่าราคาหุ้นได้ตอบรับปัจจัยบวกดังกล่าวไปแล้ว

ส่วนบล.เคจีไอ มองว่าเราคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขา และการเพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่าน E-commerce (เว็บไซต์, Line, Facebook, Lazada และ Shoppee) โดยบริษัทยังคงเดินหน้าตามแผนขยายสาขาในทำเลที่มีศักยภาพ เช่น พื้นที่ EEC ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าจะเปิด 4 สาขาใหม่ Size L ในปี 2564 จะทำให้จำนวนสาขาร้านเพิ่มเป็น 16 สาขาในสิ้นปี 2564 (เป็นไปตามสมมติฐานของเรา) สำหรับการขยายสาขา DOHOME To Go บริษัทตั้งเป้าจะเปิดร้านใหม่เพิ่มอีก 15 ร้านในปี 2564 มากกว่าสมมติฐานปีหน้าของเราที่ 10 สาขา

ส่วนอัตรากำไรจะดีขึ้นจากการบริหารจัดการสต็อกสินค้าจากศูนย์กระจายสินค้า(Distributuion Center) ของบริษัทได้ดีขึ้น และบริหารจัดการพื้นที่ปล่อยเช่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเพิ่ม House Brand โดยตั้งเป้าไว้ที่ 20% ภายในปี 65 จาก 16.9% ใน 9 เดือนปี 63 (เราใช้สมมติฐานปี 2563 - 65 ที่ 16.7% - 17.2%)

ทั้งนี้ ยอดขายสินค้า House Brand ที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 1% จะทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 3% โดยสรุปแล้วเรายังคงประมาณการอัตราการเติบโตของกำไรของ DOHOME ในปี 64 - 65 ไว้ที่ 32% และ 21% ตามลำดับ

*** แต่ตอนนี้อาจแพงไปแล้ว

อย่างไรก็ดีหากสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์กลับพบว่ามีทั้งแนะนำให้ซื้อและถือ แต่กลับมองว่าราคาหุ้นในปัจจุบันสูงเกินราคาเหมาะสมปี 64 ไปแล้วดังนี้

SSSG เดือนพ.ย.63 ที่ออกมาสะท้อนว่าผลประกอบการของ DOHOME ยังเติบโตได้ต่อเนื่องในปี 64 โดยกำไรอาจจะโตถึง 28% จากปีนี้ แต่ราคาหุ้นที่ดีดขึ้นมาตอบรับแล้วอาจทำให้นักลงทุนต้องจับจังหวะการเข้าลงทุนให้ดี!

ที่มา : efinancethai.com