ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์และข่าวแจ้งสื่อมวลชน
เปิดโผ 12 หุ้นพุ่งทำนิวไฮ เกินครึ่งทุบสถิติตลอดกาลทั้งราคา-กำไร
'สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย' สำรวจราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่ในรอบวันทำการซื้อขาย 1 สัปดาห์หลังสุด (ข้อมูลสิ้นสุด ณ 3 มี.ค.64) พบว่ามีถึง 12 บริษัทที่ราคาหุ้นขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) ในรอบ 5 ปี ประกอบด้วย
12 บริษัทข้างต้น เป็นหุ้นขนาดใหญ่ในดัชนี SET100 ถึง 9 บริษัท โดยกลุ่มธุรกิจการเกษตร, พาณิชย์ และอาหาร-เครื่องดื่ม ติดโผสูงสุดกลุ่มละ 2 บริษัทเท่ากัน
ทั้งนี้พบว่ามีถึง 7 บริษัทที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นทำสถิติใหม่ตลอดกาล (All Time High) โดยหากคำนวณผลตอบแทนจากราคาหุ้น ณ สิ้นปี 63 ถึงจุดสูงสุดใหม่ บมจ.เค. ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค (KWM) ให้ผลตอบแทนสูงสุดในปีนี้ถึง 343% รองลงมาคือ บมจ.ซีมิโก้ แคปปิตอล (ZMICO) ให้ผลตอบแทน 208.4%
ขณะที่ เมื่อสำรวจผลประกอบการปี 63 พบว่า มีถึง 8 บริษัทที่กำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดตลอดกาลเช่นกัน โดยปี 63 บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) มีกำไรสุทธิ 9.5 พันล้านบาท เติบโตสูงสุดในกลุ่ม ถึง 6,516.59% เมื่อเทียบกับปีก่อน รองลงมาคือ บมจ.อกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE) ที่มีกำไรสุทธิ 319.62 ล้านบาท เติบโตขึ้น 996.84% จากปีก่อน
อย่างไรก็ตามมี 3 บริษัทที่กำไรลดลงและยังขาดทุน ประกอบด้วย บมจ.เอส พี วี ไอ (SPVI) ที่ปี 63 มีกำไรสุทธิ 73.3 ล้านบาท ลดลง 3.17% จากปีก่อน , บมจ.ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป (TRUBB) ขาดทุนสุทธิ 120.53 ล้านบาท แต่ขาดทุนลดลงจากปี 62 ที่ขาดทุนสุทธิ 351.72 ล้านบาท และ บมจ.ซีมิโก้ แคปปิตอล (ZMICO) พลิกขาดทุนสุทธิ 16.62 ล้านบาท จากปี 62 ที่มีกำไร 81.33 ล้านบาท
นอกจากนี้ เมื่อสำรวจราคาเหมาะสมเฉลี่ยของหุ้นข้างต้นจาก IAA Consensus ณ 2 มี.ค.64 พบว่า ส่วนใหญ่ ราคาล่าสุด เกินมูลค่าพื้นฐานไปแล้ว ดังนี้
โดย KWM เป็นบริษัทที่ราคาหุ้นเกินพื้นฐานมากสุดถึง 40.28% รองลงมา คือ APURE ที่ราคาหุ้นเกินพื้นฐาน 23.95% ขณะที่ อีก 2 บจ.ที่ราคาหุ้นเกินพื้นฐานมากกว่า 10% ประกอบด้วย บมจ.ดูโฮม (DOHOME) ราคาหุ้นเกินพื้นฐาน 21.14% และ บมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย (RBF) ราคาหุ้นเกินพื้นฐาน 16.16%
ฟาก บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) เป็นบริษัทที่มีอัพไซด์สูงที่สุด แต่เหลืออัพไซด์เพียง 9.55% รองลงมา คือ บมจ.อาร์ ซี แอล (RCL) ที่ราคาหุ้นมีอัพไซด์เหลือเพียง 3.73% และ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) ที่ราคาหุ้นเหลืออัพไซด์เพียง 2.16%
ส่วน TRUBB และ ZMICO เป็น 2 บริษัทที่ไม่มีบทวิเคราะห์รองรับ จึงไม่มีราคาเป้าหมายจากโบรกเกอร์
ที่มา : www.efinancethai.com