ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

DOHOME ปิดซื้อขายเช้านี้บวก 2.64% คาดรับปัจจัยหนุน ครม.เคาะ 5.45 หมื่นลบ.กระตุ้นบริโภค - น้ำท่วม หนุนความต้องการสินค้าซ่อมบ้าน ขณะที่โบรกฯประเมินกำไร 2 ไตรมาสหลังของปีนี้ ยังโตเกิน 100% YoY หนุนกำไรทั้งปี โตแจ่ม 138 - 180% YoY คาดกำไรยังโตสูงกว่ากลุ่มถึงปี 66

*** ปิดเช้าบวก 2.64% รับครม.กระตุ้นเศรษฐกิจ - อานิสงส์น้ำท่วม

ราคาหุ้น บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME ช่วงเช้าวันนี้ (20 ต.ค.64) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 25.25 บาท ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคาดังกล่าว เพิ่มขึ้น 0.65 บาท หรือ 2.64% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 105.47% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอซียพลัส ระบุสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น DOHOME ปิดซื้อขายเช้านี้บวก 2.64% เนื่องจาก กำลังได้รับปัจจัยหนุน หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเพิ่มวงเงินโครงการกระตุ้นการบริโภคราว 5.45 หมื่นล้านบาท ได้แก่ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้ผู้มีบัตรสวัสดิการรัฐ, โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ, โครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้

ส่วน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เสริมว่า นอกจากประเด็นดังกล่าวแล้ว DOHOME ยังได้รับ Sentiment เชิงบวก จากความต้องการสินค้าซ่อมแซมบ้าน หลังเหตุการณ์น้ำท่วม ประกอบกับ ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/64 ยังเติบโตจากปีก่อนในอัตราเร่ง แม้เป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 รุนแรง

*** กำไร Q3/64 ยังโตเกิน 100% แม้ถูกโควิดเล่นงาน

บล.เอเซียพลัส ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 3/64 ของ DOHOME ไว้ที่ 375 ล้านบาท เติบโตขึ้น 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้เป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 รุนแรง โดยมีปัจจัยหนุน จากการบริหารจัดการให้ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เติบโตขึ้นได้ราว 15% ประกอบกับ ได้รับอานิสงส์ จากการขยายสาขาขนาดกลาง และใหญ่ สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน อีก 2 แห่ง รวมเป็น 14 แห่ง

นอกจากนี้ ยังประเมินว่า ยอดขายในช่วงดังกล่าว มีแนวโน้มเติบโตขึ้น 28.5% จากปีก่อน ขณะที่ Net Margin คาดว่า จะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 9.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ระดับ 4% ประกอบกับ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ยังขยายต่อต่อเนื่อง สาเหตุหลัก มาจากการประหยัดต่อขนาดที่ยังทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 3/64 ของ DOHOME ไว้ที่ 440 ล้านบาท เติบโตขึ้น 134% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุน จากรายได้ที่สูงขึ้น และ SSSG ที่ยังเพิ่มขึ้นในระดับ 14-15% ประกอบกับ อัตรากำไรขั้นต้น เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 20.5% มีปัจจัยหนุน จากราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิไตรมาส 3/64 ของ DOHOME มีแนวโมหดตัว 26% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ต้องปิดให้บริการชั่วคราว สาขาขนาดใหญ่ไป 2 แห่ง และ ToGo อีก 7 สาขา ในช่วงเดือน ก.ค. - ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังถูกชดเชยด้วย SSSG และ อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น ช่วยประคองกำไรสุทธิทรงตัวอยู่ในระดับสูง

*** ไตรมาสสุดท้ายยังโตต่อเนื่อง หลังคลายล็อกดาวน์

บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 4/64 ของ DOHOME มีแนวโน้มเติบโตขึ้นมากกว่า 150% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 215.40 ล้านบาท สะท้อนจากยอดขายสาขาเดิม ช่วง 10 วันแรกของไตรมาส กลับมาเติบโตในอัตราเร่งที่ 30-40% และแม้ว่าจะมีแนวโน้มลดลงบ้างในช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค.64 จากฐานสูง แต่ยังคาดว่า SSSG ทั้งไตรมาส จะเติบโตมากกว่า 20%

ขณะที่ การกลับมาเปิดให้บริการสาขาได้ตามปกติ จะช่วยหนุนให้สัดส่วนยอดขายสินค้าประเภทต่างๆ กลับสู่ระดับปกติ ประกอบกับ ราคาเหล็ก (Rebar) ที่กลับมาเข้าใกล้จุดสูงสุด เหมือนช่วงกลางปีที่ผ่านมา ช่วยกระตุ้นให้ GPM กลับมาเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สอดคล้องกับ บล.เคทีบีเอสที ที่มองว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/64 ของ DOHOME จะเร่งตัวขึ้นจากปีก่อน และไตรมาสก่อน โดยมีปัจจัยหนุนจากสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย จะทำให้มีความต้องการซื้อสินค้าเพื่อซ่อมแซมบ้านจำนวนมาก ประกอบกับ การเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 2 แห่ง ยังเป็นไปตามแผน

ได้แก่ สาขา จ.ชลบุรี อมตะนคร คาดเริ่มเปิดบริการเดือน พ.ย.64 และ สาขา จ.สุราษฎร์ธานี จะเปิดบริการเดือน ธ.ค.64 ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายของ DOHOME ให้เติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังคาด Margin จะปรับตัวดีขึ้น หลังกลับมาเปิดให้บริการครบทุกสาขา และราคาเหล็กเริ่มปรับตัวขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 64 จะอยู่ที่ 2.03 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 180% จากปีก่อน

ส่วนนักวิเคราะห์ อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 64 ของ DOHOME ไว้ดังนี้

*** กูรูยกเป็นหุ้นน่าสะสม แถมเทรด P/E ได้สูงกว่ากลุ่ม

บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ราคาหุ้น DOHOME ณ ปัจจุบัน ยังอยู่ในจุดที่น่าสนใจสะสม สะท้อนจาก P/E ปี 65 อยู่ที่ระดับ 28.8 เท่า ประกอบกับ การเติบโตในระยะกลาง - ยาว ที่ยังน่าสนใจ แม้ปี 65 จะเติบโตลดลง เพราะฐานกำไรปี 64 ยกสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่โครงสร้างอุตสาหกรรม ยังเอื้อต่อการเติบโตของ DOHOME ในระยะถัดไป

ส่วน บล.เคทีบีเอสที ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ยังคงมุมมองว่า DOHOME เหมาะสมที่จะเทรด P/E สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 39.22 เท่า เนื่องจากการเติบโตของกำไรสุทธิปี 63 - 66 เฉลี่ยอยู่ที่ 50% ต่อปี ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าหุ้นในกลุ่มเดียวกัน อย่าง GLOBAL ที่คาดเติบโตเฉลี่ย 25% ต่อปี และ HMPRO ที่คาดเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี

*** ส่วนใหญ่แนะนำ'ซื้อ' เพราะชอบการเติบโต

จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำ'ซื้อ' เนื่องจากมองว่า กำไรสุทธิของ DOHOME ในช่วงครึ่งหลังของปี 64 ยังคงเติบโตในอัตราเร่งเมื่อเทียบกับปีก่อนอย่างน่าสนใจ ประกอบกับ ค่าเฉลี่ยการเติบโตของกำไรสุทธิ จากนี้ไปอีก 2 ปีข้างหน้า ยังเติบโตเฉลี่ยต่อปี สูงสุดในกลุ่มอีกด้วย

นอกจากการเติบโตในระยะสั้น - ยาว ที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่ม ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว ราคาหุ้น DOHOME ที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ยังมีอัพไซด์สูงราว 25.25% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของนักวิเคราะห์อีกด้วย ...

ที่มา : www.efinancethai.com