News Clippings and IR Press Releases
DOHOME วางงบลงทุนปีนี้ 1.8 พันลบ. ขยาย 4 สาขา หวังปี68 มีครบ 36 สาขา ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่
นายชยานนท์ หอพัตราภรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบัญชีและการเงิน (CFO) บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) DOHOME เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินภาพรวมผลประกอบการในปี2564 มีแนวโน้มการเติบโตดีเช่นเดียวกับมุมมองต่อผลงานในไตรมาสที่1/2564 ที่คาดว่าจะมีการเติบโตดีและเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจ โดยในช่วงเดือนม.ค. - มี.ค. พบว่ายอดขายสินค้าของบริษัทมีการเติโตต่อเนื่องคิดเป็นเปอร์เซนต์ 2 หลัก แม้ว่าส่วนหนึ่งจะมาจากราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังต้นทุนการผลิตเหล็กปรับตัวขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหากหักยอดขายของกลุ่มสินค้าเหล็กออกแล้ว บริษัทก็ยังมีรายได้จากหลายๆกลุ่มสินค้าที่หนุนให้ยอดขายเติบโต2หลัก
นอกจากนี้ บริษัทยังมีมุมมองว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมทั้งปีนี้ จะยังคงมีกำลังซื้อของลูกค้าเข้าอย่างต่อเนื่อง หนุนการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (Same Store Sale Growth : SSSG) ให้เป็นบวก อย่างไรก็ตามในฤดูฝนหรือการเกิดมรสุมพายุต่างๆ จะเป็นช่วงที่ยอดขายของบริษัทได้รับผลกระทบ จากคำสั่งซื้อสินค้าก่อสร้าง ที่มาจากโครงสร้างพื้นฐานลดลง แต่ก็ยังมีสินค้าประเภทการเกษตรและสวนที่จะทำยอดขายได้มากขึ้นสวนทางกัน
'สำหรับผลงานของยอดขาย ผมคิดว่าไตรมาสที่1 คือช่วงที่DOHOME ทำยอดขายได้ดีที่สุด รองลงมาคือไตรมาสที่4 และ2-3 ตามลำดับ แต่ก็ต้องยอมรับว่าตัวเลขต่างๆของแต่ละไตรมาส ไม่ได้สร้างยอดขายขึ้นลงแตกต่างกันเยอะอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด เช่นในไตรมาสที่2 ที่ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน รายได้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสินค้าประเภททำความเย็นที่จะได้รับความนิยมจากลูกค้า เช่นเครื่องปรับอากาศเย็น เป็นต้น' นาย ชยานนท์ กล่าว
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าผลงานภายใน3ปีข้างหน้า (2567) คาดว่าจะมียอดขายจากสาขาใหม่ แตะที่ระดับ 1500ล้านบาทต่อปี ซึ่งในปีแรกของการเปิดสาขาใหม่ คาดว่าจะทำยอดขายอยู่ที่ 60% ของเป้า3ปี หรือแตะระดับ 900 ล้านบาท ปีที่สองคาดว่าจะอยู่ในสัดส่วน 80%ของเป้า3ปี หรือคิดเป็น 1,200 ล้านบาท และในปี3 คาดว่าจะมียอดขายแตด 1,500 ล้านบาท ต่อปี
ด้านแผนการลงทุนในปีนี้ บริษัทได้วางงบลงทุนรวม 1,800 ล้านบาท สำหรับการขยาย4สาขาใหม่ ซึ่งจะประกอบด้วยการก่อสร้างแบบไม่ร่วมค่าที่ดิน ราว400-450 ล้านบาทต่อสาขา และจะมีการขยายต่อเนื่อง ให้ครบ 36 สาขาภายในปี2025 (พ.ศ.68) เฉลี่ยอย่างน้อย 5 สาขาต่อปี ให้ครอบคลุมในเขตหัวเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศไทย
สำหรับการก่อสร้างสาขาใหม่นั้น นอกจากจะปรับขนาดพื้นที่ให้เล็กลง ก็จะมีการเปลี่ยนรูปแบบจากการซื้อที่ดินเป็นการเช่าที่ดินระยะยาว เพื่อลดความต้องการใช้เงินทุนในส่วนแรก ซึ่งจะช่วยให้สามารถขยายสาขาได้เร็วขึ้น ส่งผลให้IRR หรือผลตอบแทนต่อสาขาดีขึ้นตามไปด้วย
ทั้งนี้ บริษัทได้ก่อสร้างสาขาแหลมฉบัง จ.ชลบุรี แล้วเสร็จและเปิดดำเนินการไปแล้ว ในช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง สาขาบ่อวิน คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการได้ ในช่วงปลายเดือนมิ.ย.นี้ ด้าน สาขาอมตะนคร จ.ชลบุรี คาดว่าจะแล้วเสร็ตในช่วงไตรมาส3 ขณะที่ สาขาสุราษฏร์ธานี อยู่ในช่วงกำลังเริ่มก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการในช่วงไตรมาส4
ขณะเดียวกัน ยังรวมไปถึงการใช้เงินลงทุนติดตั้งเครื่องปรับอากาศในสาขาที่ยังไม่มี เพื่ออำนวยความสะดวกสบายและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าในช่วงเลือกสินค้า อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนรูปแบบการขยายสาขาใหญ่ ให้มีขนาดลดลง ซึ่งสาขาใหม่ๆที่เป็นขนาดXL จะมีการใช้ระบบการจัดการคลังสินค้าในแนวสูง กว่า20 เมตร เพื่อลดพื้นที่ในการเก็บของได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงดำเนินแผนลดค่าใช้จ่ายด้านการบริหารงานอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย การเปลี่ยนระบบโทรศัพท์เป็นระบบIP เพื่อลดต้นทุนด้านการรับสายหรือโทรออกไปหาลูกค้า และมีร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยเพื่อบริหารจัดการด้านการเงินให้ดีขึ้น รวมถึงมีการใช้โซลาร์รูปท็อปในทุกๆสาขา เพื่อช่วยลดค่าไฟประมาณ4 ล้านบาทต่อปี ซึ่งทั้งหมดเป็นตัวช่วยที่ทำให้มีรายได้ของบริษัทกลับเพิ่มเข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ
ด้านการพัฒนาบุคลากรของบริษัท DOHOME ได้ใช้ โปรแกรม Learning Management system (LMS) เข้ามาช่วยให้ความรู้และเทรนนิ่งพนักงานของบริษัท โดยสามารถเรียนรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ซึ่งจะเป็นเนื้อหาสำหรับการเตรียมตัวเพื่อขยายสาขาใหม่ในอนาคต ขณะเดียวกันก็มีการใช้ Virtual Employee Robot เพื่อลดต้นทุนในการจ้างพนักงาน สำหรับงานที่เป็นประจำวันและสามารถตั้งค่าได้ และใช้ใช้แอพลิเคชั่นก้าน CRM เพื่อดูเรื่องมาร์เกตติ้งของบริษัท นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มไลน์โปรดักส์ใหม่ๆ เช่น สินค้าเกี่ยวกับผู้สูงอายุ เพื่อเจาะตลาดที่ปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว รวมถึงโปรโมชั่นต่างๆเพื่อระบายสินค้าที่สโลว์มูฟออกไปให้ได้มากที่สุดเนื้อข่าว :
ที่มา : www.hooninside.com