News Clippings and IR Press Releases

ส่องงบโค้งแรก 3 หุ้นค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง HMPRO-GLOBAL-DOHOME แนวโน้มเป็นอย่างไรบ้าง


โบรกฯ คาดงบไตรมาส 1/67 ของ 3 หุ้นกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ลุ้น HMPRO โชว์กำไรอยู่ที่ 1.75 พันลบ. เติบโตเพียงตัวเดียวในกลุ่ม ด้าน GLOBAL - DOHOME กำไรชะลอตัว เหตุ SSSG ติดลบ-เบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐล่าช้า งานก่อสร้างที่ชะลอตัว

'สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย' ได้รวบรวมคาดการณ์กำไรไตรมาส 1/67 จากนักวิเคราะห์หลายสำนักที่มีต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ซึ่งหุ้นในกลุ่มดังกล่าว ประกอบด้วย บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO), บมจ. สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) และ บมจ. ดูโฮม (DOHOME) ได้ดังนี้

*** บล.ยูโอบีฯ คาด HMPRO โชว์กำไร Q1/67 อยู่ที่ 1.75 พันลบ.

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุในบทวิเคราะห์ว่าคาด HMPRO จะรายงานกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 1/67 ที่ 1,750 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 4.3% จากไตรมาส 4/67 จากทั้งรายได้ที่ฟื้นตัวและความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น โดยคาดกำไรจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าช่วงไฮซีซั่นของบริษัทในไตรมาส 4 พร้อมคาดกำไรปี 67-68 จะเพิ่มขึ้น 6.6% และ 9.0% ตามลำดับ

ขณะที่ประเมินว่า Mega Home จะได้ประโยชน์จากการผ่านงบประมาณของรัฐบาลปี 67 โดยแนะนำ“ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 15.70 บาท

โบรกฯ

กำไร Q1/67
(ลบ.)

เปลี่ยนแปลง
YoY

ราคาเป้าหมาย
บาท/หุ้น

ยูโอบี เคย์เฮียน

1,750

8.6%

15.7

*** คาด GLOBAL กำไรอยู่ที่ 740-863 ลบ.หวั่น SSSG ยังคงติดลบ-เบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐล่าช้า

บล.พาย คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ที่ 740 ล้านบาท ลดลง 16% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 32% จากไตรมาส 4/66 ผลจากต้นทุนการเปิดสาขาใหม่ 7 แห่งที่เปิดในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามคาดว่ายอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะยังคงติดลบในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ เนื่องจากงานก่อสร้างที่ชะลอตัวและประโยชน์จากมาตรการ Easy E-Receipt ค่อนข้างจำกัด แต่คาด SSSG จะพลิกกลับมาเป็นบวกในช่วงครึ่งปีหลัง หลังงานก่อสร้างฟื้นตัวตามการเบิกจ่ายงบประมาณโครงสร้างพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้บริษัทยังคงคำแนะนำ 'ซื้อ' มูลค่าพื้นฐานที่ 19.00 บาท (เดิม 18 บาท) หลังปรับเพิ่ม Terminal Growth จาก 2.5% เป็น 3.0% แนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งจากยอดขายงานก่อสร้างที่เร่งตัวมากกว่าปกติ

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) คาดกำไรที่ 863 ล้านบาท หดตัว -2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่โต 54% จากไตรมาส 4/66 โดยคาดรายได้ที่ 9,000 ล้านบาท จากรายได้จากสาขาใหม่ที่เพิ่มขึ้นและส่วนช่วยจากโครงการ Easy E-receipt ที่หนุนสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างไรก็ตามมองว่า SSSG ในไตรมาส 1/67 จะอยู่ที่ระดับติดลบ -4-6% และคาด GPM ที่ระดับใกล้เคียงกับในไตรมาส 4/66 ที่ 26% แต่ขยายตัว +100 bps จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 67-68 ลง -7% อยู่ที่ 2.9 และ 3.5 พันล้านบาท จากเดิมที่ 3.1 และ 3.7 พันล้านบาท ตามลำดับ

อย่างไรก็ตามยังแนะนำ “ถือ” ปรับราคาเป้าหมายปี 67 ลงเป็น 16 บาท จากเดิมที่ 17.00 บาท โดยจะเห็นกำไรเติบโตได้ในปี 67 จากฐานที่ลงมาต่ำในปีก่อน แต่มองว่าในระยะสั้นกำลังซื้อยังฟื้นตัวได้ช้าต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอและขาดโครงการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) คาดว่ากำไรอยู่ที่ 853 ล้านบาท เนื่องจากเข้าสู่ไฮซีซั่น โดยคาดการณ๎ SSSG จะติดลบ 5% สาเหตุจากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐล่าช้า อย่างไรก็ตามอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 118bps จากช่วงเดียวกันปีก่อนเป็น 26.2% เนื่องจากสัดส่วนสินค้าเฮาส์แบรนด์เพิ่มขึ้น,การปรับราคาขายในไตรมาส 4/66 และราคาเหล็กกลับสู่ภาวะปกติ โดยประเมินว่า SSSG จะดีขึ้นในงวดไตรมาส 2/67 จากนั้นก็จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3-4/67 เนื่องจากการเบิกจ่ายงบประมาณในเดือน เม.ย.และผลกระทบจากฐานที่ต่ำในงวดไตร 3-4/66

ทั้งนี้ได้ลดคำแนะนำจาก “ซื้อ”เป็น “ถือ” พร้อมลดราคาเป้าหมายเป็น 16.70 บาท หลังได้ปรับลดประมาณการกำไรลงเพื่อสะท้อน SSSG ที่ลดลงและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยเชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อน sentiment เชิงบวกเกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณปีงบประมาณ 67 ในเดือนเม.ย.นี้แล้ว โดยหุ้นเพิ่มขึ้นมาซื้อขายที่ P/E ปี 67 ที่ 29 เท่า ซึ่งสูงกว่ากลุ่มค้าปลีกที่ 24 เท่า

โบรกฯ

กำไร Q1/67
(ลบ.)

เปลี่ยนแปลง
YoY

ราคาเป้าหมาย
บาท/หุ้น

พาย

740

-16%

19

ดาโอ

863

-2.1%

16

เมย์แบงก์

853

-3.2%

16.7

งบ Q1/66 ของ GLOBAL มีกำไร 882 ล้านบาท

*** ส่วน DOHOME คาดกำไรอยู่ที่ 211- 251 ลบ.รับงานก่อสร้างที่ชะลอตัว

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ที่ 211 ล้านบาท ลดลง 18% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาส 4/66 โดยมีปัจจัยดังนี้ 1.คาด SSSG ในไตรมาส 1/67 ยังติดลบมากว่า 10-11% หลักจากกลุ่มลูกค้า Back office ที่ยังคงหดตัว, 2.คาด GPM ในไตรมาสแรกที่ 17.5% จากอัตรากำไรขั้นต้นของทุกกลุ่มสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น และ3.คาด SG&A ที่ 1.1 พันล้านบาท หลักๆมาจากค่าใช้จ่ายของสาขาใหม่ที่รับรู้เข้ามาเต็มไตรมาส พร้อมปรับประมาณการกำไรปี 67-68 ลง 8-4% อยู่ที่ 985 ล้านบาท และ1.2 พันล้านบาท จากแนวโน้มครึ่งปีแรกของปีนี้ที่ยังฟื้นตัวได้ช้า

อย่างไรก็ตามยังให้คำแนะนำเป็น 'ถือ' เพราะมองว่าจะผลการดำเนินงานค่อยๆฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง จากการฟื้นตัวของกลุ่มลูกค้างานโครงการกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาล จึงมองเป็นการฟื้นตัวจากฐานต่ำและแผนการขยายสาขาในปีนี้ที่ถูกเลื่อนไปในปี 68 พร้อมมีการปรับราคาเป้าหมายปีนี้ลงเป็น 11.00 บาท จากเดิม 12.00 บาท

บล.พาย คาดผลประกอบการอยู่ที่ 251 ล้านบาท จากคาดการณ์การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ -10% ผลจากงานก่อสร้างที่ชะลอตัวและต้นทุนการขยาย 3 สาขาในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าคาดอัตรากำไรขั้นต้นฟื้นตัวกลับสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 ไตรมาสที่ระดับ 17.8% โดยยังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมในช่วงครึ่งปีหลัง

ทั้งนี้ได้ปรับคำแนะนำขึ้นจาก 'ถือ' เป็น “ซื้อ” ที่มูลค่าพื้นฐาน 13.50 บาท (เดิม 11.50 บาท) หลังเพิ่มประมาณการกำไรปี 68 ขึ้น 5% เพื่อสะท้อนการฟื้นตัวของยอดขายจากกลุ่มลูกค้าผู้รับเหมาที่รับงานรัฐบาล หลังการเร่งเพิกจ่ายเบิกจ่ายงบประมาณโครงสร้างพื้นฐานที่มากขึ้น

โบรกฯ

กำไร Q1/67
(ลบ.)

เปลี่ยนแปลง
YoY

ราคาเป้าหมาย
บาท/หุ้น

ดาโอ

211

-18%

11

พาย

251

-2.7%

13.5

งบ Q1/66 ของ DOHOME มีกำไร 258 ล้านบาท

ที่มา : www.efinancethai.com