News Clippings and IR Press Releases

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(5ตุลาคม 2563)-------บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ประเมินปัจจัยที่นักลงทุนให้ความสำคัญได้แก่อาการป่วย COVID-19 ของ Donald Trump ข้อมูลล่าสุดทางทำเนียบขาวระบุว่าทาง Donald Trump กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่ศูนย์การแพทย์แห่งชาติในรัฐแมรลี่แลนด์และอยู่ในภาวะที่ดีขึ้นไม่ได้ต้องการออกซิเจนเสริมแต่อย่างใด สอดคล้องกับการออกมา Twitter ของ Donald Trump ฉันคิดว่าฉันสบายดี ขอบคุณทุกคน รัก ทั้งนี้สัปดาห์นี้แนะนักลงทุนติดตามต่อกับอาการป่วยเนื่องจากจะเข้าใกล้วันเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย. 20

เราประเมินว่าหาก Donald Trump สามารถดำรงตำแหน่งต่อสมัยที่ 2 จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นรวมถึง SET INDEX ที่จะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากนโยบายที่เน้นสนับสนุนพลังงานจาก Fossil (น้ำมัน) รายละเอียดเพิ่มเติมแนะติดตามในบทวิเคราะห์กลยุทธ์อัพเดทเกี่ยวกับการเลือกตั้งสหรัฐ

ส่วนปัจจัยในประเทศ แนะติตตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวันที่ 7 ต.ค. ข้อมูลล่าสุดทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นระยะสั้นเน้นให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการหรืออุตสาหกรรมต่าง ๆให้ชัดเจนมากขึ้น ความเห็นเราปัจจุบันธุรกิจที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ได้แก่ธุรกิจท่องเที่ยว แม้อัตราการเข้าพักในวันหยุดสุดสัปดาห์จะอยู่ระดับราว 80-100% แต่วันธรรมดาค่อนข้างต่ำประกอบกับรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไป จึงมีโอกาสที่ทางรัฐบาลจะต่ออายุโครงการ เราไปเที่ยวด้วยกัน จนถึง ธ.ค. จากเดิมที่โครงการดังกล่าวจะหมดอายุสิ้นเดือน ต.ค. หากเป็นไปตามคาดมองกลุ่มโรงแรมจะรับผลบวกรวมไปถึงกลุ่มค้าปลีกขนาดย่อมที่มีสาขากระจายทั่วประเทศ (BJC CPALL) ขณะเดียวกันแนะติดตามความคืบหน้าการท่องเที่ยว Long Stay ซึ่งจะเริ่มวันแรกวันที่ 8 ต.ค. หากไม่เกิดการแพร่ระบาดที่รุนแรงอาจเพิ่มแรงจูงใจให้รัฐบาลเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นซึ่งจะเป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว โดยเฉพาะโรงแรม

สำหรับแนวโน้ม SET INDEX สัปดาห์นี้คาดเคลื่อนไหวกรอบ 1230 - 1260 จุด วันจันทร์มีโอกาสฟื้นตัวตามตามตลาดหุ้นเอเชียที่ตอบรับเชิงบวกต่อข่าวอาการ Donald Trump ที่ดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

กลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนระยะกลาง - ยาว ยังคงคำแนะนำเริ่มทยอยสะสมได้ เน้นหุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาตอบรับเชิงลบต่อผลประกอบการทีอ่อนแอไปแล้วและปี 21 ผลประกอบการจะฟื้นตัว (ADVANC AWC BJC BEM CRC CPALL HMPRO MAJOR PLANB VGI) ส่วนสัปดาห์นี้แนะนำกลุ่มที่ผลประกอบการ 3Q20 เติบโต YoY (AUCT CPF DOHOME PTG PRM)

DOHOME (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 16.5 บาท) คาดผลประกอบการ 3Q20 จะเติบโตเด่นทั้ง QoQ , YoY สนับสนุนจากการเติบโตแข็งแกร่งจากยอดขายต่อสาขาราว +9%YoY เนื่องจากมีการปรับปรุงสินค้าที่มี Magin สูงขึ้นกอปรกับสาขาที่สุรินทร์ที่เปิดเมื่อช่วง ก.ค. สามารถทำกำไรได้หลังเปิดได้เพียง 1 เดือนเท่านั้นจากปกติที่จะใช้ระยะเวลาราว 4-6 เดือน ถึงจะผ่านจุดคุ้มทุน ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ Forward PE 30x ถือว่าไม่แพงมากเมื่อเทียบบน PEG RATIO ที่อยู่ราว 0.9x

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 73 บาท) ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมาเปิด Upside ต่อราคาเป้าหมายสูงถึง 20% ขณะเดียวกันคาดราคาหุ้นปรับฐานรับผลประกอบการ 2Q20 ที่อ่อนแอไปแล้ว จากนี้คาดผลประกอบการจะค่อยๆฟื้นตัวและมีลุ้น Upside เพิ่มจากการเปิดประเทศ ขณะที่ภาพของระยะยาวยังดูแข็งแกร่งสนับสนุนจากการเตรียมรุกตลาดต่างประเทศ (กัมพูชา ลาว) มองเป็นจังหวะของการเริ่มทยอยสะสมได้

ที่มา : hooninside.com