News Clippings and IR Press Releases

หุ้นเด่นประจำวัน กลุ่ม ICT และ DOHOME


Daily Picks Trading Target

TISCO 69.00

GULF 34.25

สัปดาห์หน้าติดตามการชุมนุมคาด SET ลดความร้อนแรงกลับมาติดตามสถานการณ์ส่วนวันนี้คาดSET แกว่งในกรอบ 1270จุด+/- แนะทยอยสะสม TISCO, GULF

สัปดาห์หน้าติดตามการชุมนุมคาด SET ลดความร้อนแรงกลับมาติดตามสถานการณ์

หากนับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. SET ปรับตัวขึ้นมากกว่า 3% เป็นผลจากพัฒนาการฟื้นตัวของปธน. Trump และการใกล้บรรลุข้อตกลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระหว่าง Trump และ Biden ในขณะที่หุ้นส่วนทั้งในและต่างประเทศที่ปรับขึ้นรอบนี้ส่วนมากเป็นกลุ่ม Value play ที่ค่อนข้าง Laggard เมื่อเทียบกับ MSCI Growth Index เช่นกลุ่มพลังงาน, ธนาคารและค้าปลีกจากนี้เราประเมินว่า SET จะเริ่มกลับมาแกว่งในกรอบ 1,240-90จุดอีกครั้งและจุดสนใจจะวกกลับมาที่การเมืองในประเทศอีกครั้งโดยเฉพาะการชุมนุมในวันที่ 14ต.ค.นี้ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยว 30วันภายหลังสภามีมติให้คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนําเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาซึ่งประเด็นหลักที่มีการหารือนั่นคือ 1) ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแก้ไขมาตรา 256 ที่เสนอโดยพรรคร่วมฝ่ายค้านและรัฐบาลขัดกับรํฐธรรมนูญและคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ 2555รึไม่ 2) ร่างใหม่ทั้งฉบับต้องทําประชามติก่อนหรือไม่ ? ซึ่งเราประเมินว่าผลการตัดสินของประเด็นดังกล่าวอาจส่งผลไม่มากก็น้อยต่อการชุมนุมในครั้งถัดไปและอีกประเด็นนั่นคือผลการเลือกตั้งสหรัฐซึ่งล่าสุดการดีเบตเมื่อวานที่ผ่านมาระหว่าง Harris และ Pence พบว่าโพล CNN ยังคงให้คะแนน Harris นํา (คะแนนเพิ่มขึ้นจากก่อนดีเบตเป็น 63%) ซึ่งจะเห็นได้ว่าทั้งการดีเบตของสองตัวแทน Republican พ่ายต่อ Democrat ทั้งสองรอบฉะนั้นในช่วง 4สัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้งจับตา Trump ในการออกกลยุทธ์ช่วงชิงคะแนนเสียงซึ่งเราคาดว่าจะส่งผลต่อความผันผวนอย่างมีนัยยะหากอิงจากสถิติในอดีตของความผันผวนโดยวัดจาก Merrill Lynch Option Volatility (MOVE) อิงพันธบัตรสหรัฐพบว่าจะผันผวนสูงเมื่อช่องว่างของ 2 ตัวแทนแคบลงฉะนั้นเราคาดว่าในช่วงที่เหลือของเดือนอาจยังไม่เหมาะกับการเพิ่มนํ้าหนักการลงทุนในตลาดหุ้นโดยมองเป็นเพียงการเก็งกําไรระยะสั้นในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจํากัดจากการเลือกตั้งสหรัฐเช่นกลุ่ม Domestic play อย่างAEONTS, BEM, SPALI ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

สําหรับการลงทุนหลังการเลือกตั้งเรายังให้นํ้าหนักต่อการชนะของ Biden แต่ยังมีความไม่แน่นอนของการเสียงในสภาสูงและเมื่อวานที่ผ่านมามหาลัยหาการค้าเปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกันยายนกลับมาลดลงครั้งแรกในรอบ 5เดือนที่ 50.2 จาก 51.3 ในเดือนสิงหาคมซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ5เดือนเบื้องต้นเราคาดว่าเกิดจากความกังวงเรื่องการชุมนุมทั้งในเดือนก.ย.-ต.ค. ประกอบกับเดือนกันยายนเป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวระหว่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มกําลังซื้อเดิมที่หมดลงในขณะที่ 3มาตรการใหม่ 'ช้อปดีมีคืน' จะลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดารวมกันไม่เกิน 30,000 บาท, มาตรการ Co-pay และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะมีผลในเดือนต.ค.

มุมมองตลาดหุ้นคาด SET แกว่งในกรอบ 1270จุด+/- แนะทยอยสะสม TISCO, GULF

กลยุทธ์การลงทุนเรายังแนะนํากลุ่ม ICT(ADVANC) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจํากัดจาก COVID-19 สําหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ตํ่าแนะรอดูจํานวนผู้ติดเชื้อว่าจะมีคลื่นลูกที่ 2 หรือไม่

หุ้นแนะนํา TISCO (พื้นฐาน 80 บาท) หลังจากเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์ของ TISCOเราก็คาดว่ากําไรของธนาคารจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นตามเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้นในครึ่งปีหลัง, TISCO ใช้มาตรฐานบัญชีที่รัดกุมในการบันทึกสินเชื่อที่เข้ารับมาตรการช่วยเหลือด้วยสัดส่วนเพียง 3% จากสินเชื่อทั้งหมดที่ถูกระงับการจัดลําดับชั้นสินเชื่อ, TISCO มีเงินทุนที่แข็งแกร่งและมีโอกาสจ่ายเงินปันผลปี 63 GULF (พื้นฐาน 36.25 บาท) พอร์ตของ GULF มีความสมดุลระหว่าง IPPs และ SPPs และโครงการที่กําลังพัฒนาซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนระยะยาว

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันศุกร์ติดตาม Caixin PMI ภาคบริการของจีนเดือนก.ย. คาดทรงตัว MoM ที่54.3 จุด

Today's Report

ICT Sector

ข้อกังวลเกี่ยวกับส่วนต่างระหว่างรายได้และต้นทุนของบริการ5G และความสามารถในการแข่งขันที่ไม่เท่ากันในด้านนี้คือปัจจัยฉุดราคาหุ้นกลุ่มโทรคมนาคมในช่วงหลัง

ปัจจัยบวกที่อาจเกิดขึ้น 1) การแข่งขันที่เท่าเทียมมากขึ้นจากการยกระดับคลื่น 2.3GHz ของ DTAC 2) CAPEX ด้าน 5G ที่เบาลงและ 3) การเพิ่ม ARPU ของ 5G

มองเป็น 'บวก' เรายังเลือก ADVANC เป็นหุ่นเด่นรองลงมาคือDTAC ตามธีมการยกระดับคลื่น 2.3GHz

DOHOME

เราคาดว่า DOHOME จะรายงานกําไรสุทธิไตรมาส 3/2563 ที่ 186 (+39% YoY, +27% QoQ) จาก SSSG เชิงบวกที่ 8-9% และ GPM ที่สูงขึ้น

คาดบรรยากาศการบริโภคจะยังอยู่ในเชิงบวกเพราะไม่เกิดอุทกภัย, เข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวซึ่งคาดจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายเงินในต่างจังหวัดในไตรมาส 4/2563

คงคําแนะนํา 'ซื้อ' แต่เพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 16.3 บาทหลังปรับปีฐานราคาเป้าหมายไปเป็นสิ้นปี 2564 จากกลางปี 2564

PSH

เรายังคงคำแนะนํา 'ขาย' PSH ด้วยราคาเป้าหมายเดิมสําหรับกลางปี 64 ที่ 9.30 บาทบริษัทฯต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการพิสูจน์ความยั่งยืนของการฟื้นตัวในครั้งนี้

เราคาดว่า PSH จะรายงานยอดขายไตรมาส 3/63 ที่ 6.6 พันลบ. ลดลง 53% YoY แต่เพิ่มขึ้น 88% QoQ ยอดขาย 9 เดือนคิดเป็น58% ต่อเป้าทั้งปีของบริษัทฯ

แม้ยอดขายที่ดีขึ้นจะกระตุ้นให้กําไรไตรมาส 3/63 โตขึ้น QoQ แต่ก็ยังห่างไกลจากที่เคยทําได้ในไตรมาส 3/62

ที่มา : stock2morrow.com